สวัสดีค่ะ! หากคุณกำลังมองหาทริปใกล้กรุงเทพฯ และต้องการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นและไม่เหมือนใคร ไม่ควรพลาดทริปที่นั่งรถไฟไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ รอบกรุงเทพฯ ที่นี่จะมีทริปที่น่าสนใจ ซึ่งสามารถท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย โดยรถไฟจะเป็นเครื่องมือที่ดีในการเดินทางเพราะความสะดวกสบาย และความเป็นมาตรฐานที่สูง มาเริ่มทริปใหม่กันเลย!
1. เชียงใหม่
1.1 การเดินทางด้วยรถไฟ
สิ่งแรกที่ควรทำคือการเดินทางไปยังเชียงใหม่ด้วยรถไฟ สายสำคัญที่ใช้บริการคือรถไฟดีเซลราง จากสถานีหลักของกรุงเทพฯ ท่าเรือ เมื่อถึงสถานีรถไฟหัวลำโพง คุณสามารถเดินทางต่อไปเชียงใหม่ได้ง่ายๆ โดยการใช้บริการรถไฟต่อเติมที่สถานีใหญ่ของเชียงใหม่ ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง
1.2 สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในเชียงใหม่
เมื่อคุณเดินทางมาถึงเชียงใหม่แล้ว มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่คุณควรไปเยี่ยมชม ตั้งแต่วัดเก่าที่เสาชิงช้า ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ ไปจนถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพ ที่ตั้งอยู่บนยอดดอยสุเทพฯ และสวนสัตว์เชียงใหม่ซึ่งเป็นที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่มีสัตว์น่ารักๆ มากมายให้คุณได้สัมผัส
2. ปราสาทอังกฤษ
2.1 การเดินทางด้วยรถไฟ
สถานที่ถัดไปที่คุณควรไปเยี่ยมชมคือ “ปราสาทอังกฤษ” ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ สามารถเดินทางมาถึงได้โดยรถไฟ คุณสามารถนั่งรถไฟสายรางขาว (Airport Rail Link) ต้นทางที่สถานีรถไฟมักกะสัน และลงที่สถานีรถไฟลาดกระบัง จากนั้นคุณสามารถต่อเดินทางด้วยรถแท็กซี่หรือรถบัสเพื่อเดินทางไปยังปราสาทอังกฤษ
2.2 สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในปราสาทอังกฤษ
ปราสาทอังกฤษเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมาก เพราะมีสถาปัตยกรรมที่งดงามและเขียนถึงความเป็นสากลของประเทศอังกฤษ คุณสามารถเดินชมสวนสวยๆ และนั่งรถไฟเล่นได้ตามสไตล์อังกฤษที่เรียบง่ายแต่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและร้านกาแฟที่น่าสนใจอีกมากมายที่คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์ทานอาหารและดื่มกาแฟในบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ได้
3. สยามานนท์
3.1 การเดินทางด้วยรถไฟ
สถานที่สุดท้ายที่เราจะพาคุณไปคือ “สยามานนท์” ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดนนทบุรี คุณสามารถเดินทางมาถึงได้โดยรถไฟ คุณสามารถนั่งรถไฟสายหมอชิตใต้ (MRT) ต้นทางที่สถานีหัวลำโพง และลงที่สถานีสยามานนท์
3.2 สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในสยามานนท์
สยามานนท์เป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีร้านค้าและร้านอาหารมากมายให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งและทานอาหารที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีสวนสวยๆ ที่ให้คุณผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์แบบ
ทริปใกล้กรุงเทพฯ ที่นั่งรถไฟไปเที่ยวได้เป็นทางเลือกที่ดีในการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ใกล้เคียงและสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในเชียงใหม่ เพลิดเพลินกับบรรยากาศอังกฤษสุดสไตล์ในปราสาทอังกฤษ หรือได้เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งและสัมผัสบรรยากาศสยามานนท์ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน
10 ทริปใกล้กรุงเทพฯ นั่งรถไฟไปเที่ยวได้ [VIDEO]
#รถไฟ #นั่งรถไฟ
วันหยุดครั้งหน้า ใครกำลังมองหาที่เที่ยว วันนี้พวกเราชิลไปไหน จะมาชวนนั่งรถไฟฉึกกะฉักปู้นๆ ไปเที่ยวกันค่ะ กับ ‘10 ทริปใกล้กรุง ที่นั่งรถไฟไปเที่ยวได้’ พร้อมออกเดินทางแล้ว ตามเรามาได้เลย!
อีกทั้งยังมีแอปพลิเคชั่น ‘ตรวจสอบเวลาการเดินรถ’ ที่โหลดมาไว้เช็ครายละเอียดต่างๆ ได้ในมือถือแบบชิลๆ ด้วยจ้า … โอเค! ไม่เช็ครอบรถเรียบร้อย ก็ไปเที่ยวกันเล้ย!!
1. ฉะเชิงเทรา : https://www.chillpainai.com/scoop/10184/
เริ่มต้นที่ทริปแรกค่ะ เราจะพานั่งรถไฟไปไหว้พระขอพร ทานของอร่อยและชิลริมแม่น้ำบางปะกงกันที่ ‘จ.ฉะเชิงเทรา’ ค่ะ จากกรุงเทพฯ นั่งรถไฟไปใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ ถ้าเป็นรถพัดลมธรรมดา ค่าโดยสารอยู่ที่ 13 บาท ปลายทางให้ลงที่สถานีชุมทางฉะเชิงเทราจ้า หรือถ้าเดินทางช่วงเสาร์-อาทิตย์ จะจองเป็นรถไฟขบวนพิเศษก็ได้ค่ะ เป็นตั๋วเที่ยวเดียว ราคาอยู่ที่ 80 บาท/เที่ยว
2. พัทยา : https://www.chillpainai.com/scoop/9732/
ไปกันต่อค่ะ กับทริปเที่ยวพัทยา เมืองชายทะเลใกล้กรุงสุดฮิต ทริปนี้นั่งรถไฟสายตะวันออกไปได้เช่นกัน มีทั้งรถไฟธรรมดา ที่ค่าโดยสารจะตกเที่ยวละ 30 กว่าบาท และรถไฟขบวนพิเศษ ในวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเป็นสายตะวันออกเหมือนกับที่ไปฉะเชิงเทราค่ะ ซึ่งค่าโดยสารจะอยู่ที่ 170 บาท ต้องจองก่อน
3. สมุทรสงคราม
ไปเที่ยวอีกหนึ่งเมืองริมน้ำกันค่ะ กับ จ.สมุทรสงคราม เมืองริมน้ำแม่กลอง ที่ฮ็อตฮิตทั้งที่กิน-เที่ยว-พัก ซึ่งการเดินทางไปด้วยรถไฟต้องขึ้นรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย ไปลงสุดทางที่สถานีมหาชัย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนั่งเรือข้ามฟากไปท่าฉลอม และไปต่อรถไฟอีกสายที่สถานีรถไฟบ้านแหลมเพื่อจะไปลงสถานีแม่กลอง
4. นครปฐม
อีกหนึ่งจังหวัดใกล้กรุงที่นั่งรถไฟไปเที่ยวได้ไม่ยาก เราขอยกให้กับ จ.นครปฐม เลยค่ะ โดยเราสามารถเลือกนั่งรถไฟสายกรุงเทพ-หัวหิน หรือจะเป็น สายธนบุรี – หลังสวนก็ได้ค่ะ ราคาค่าโดยสายเที่ยวละประมาณ 10-14 บาทเท่านั้น
5. ราชบุรี
ไปต่อกันกับทริปเที่ยวราชบุรีค่ะ พิกัดนี้อยู่ใกล้กับนครปฐม แถมนั่งรถไฟสายเดียวกันได้ด้วยค่ะ แต่ไปไกลกว่านิดนึง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม. ค่าโดยสารประมาณ 22-25 บาท ลงที่สถานีราชบุรีได้เลยค่ะ จากนั้นต่อโบกรถตุ๊กตุ๊กหรือพี่วินไปเที่ยวต่อกันที่ หอศิลป์ร่วมสมัย Tao Hong Tai d’kunst ดีคุ้น เสพย์นิทรรศการศิลปะและนั่งจิบกาแฟเพลินๆ และแวะมาเที่ยวย้อนราชบุรีวันวานกันที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี
6. หัวหิน : https://www.chillpainai.com/scoop/8512/
เที่ยวต่ออย่ารอช้าค่ะ! คราวนี้จะพานั่งรถไฟไป ‘หัวหิน’ กันบ้าง ไปตกหลุมรักกับสถานีรถไฟหัวหิน พิกัดที่สวยคลาสสิค น่าถ่ายภาพที่ระลึก และตะลุยเที่ยวเมืองชายทะเลยอดฮิตที่ติดอันดับเมืองตากอากาศลำดับต้นๆ ของเมืองไทยกั๊นนน!
7. กาญจนบุรี : https://www.chillpainai.com/scoop/8512/
ถ้ามีเวลาว่างเสาร์-อาทิตย์แต่ไม่รู้จะไปไหน อยากชวนมานั่งรถไฟไปกาญจนบุรีกัน เส้นทางนี้จะพาเราไปรับลมเย็นๆ ชมธรรมชาติ และย้อนรอยประวัติศาสตร์ ซึ่งจุดไฮไลท์ของรถไฟสายนี้เราขอยกให้กับ ‘สะพานข้ามแม่น้ำแคว’ แลนมาร์คสำคัญที่รถไฟจะวิ่งผ่านและจอดให้ถ่ายรูปเป็นระยะ และ ‘ถ้ำกระแซ’ หรือบริเวณโค้งมรณะ ซึ่งเป็นระยะทางยาวกว่า 400 เมตร ที่ด้านซ้ายติดแม่น้ำแควน้อย และด้านขวาขนาบด้วยหน้าผาสูงชันคดโค้งชวนหวาดเสียว แต่ขณะเดียวกันก็เป็นจุดที่สวยงามที่สุดด้วยเช่นกัน
8. พระนครศรีอยุธยา :
• [VLOG] นั่งรถไฟไป…
คราวนี้ไปเที่ยวใกล้ขึ้นอีกนิดค่ะ กับทริปเที่ยวอยุธยา ซึ่งเรานั่งรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปได้ ใช้เวลาแค่ชั่วโมงกว่าๆ และค่าโดยสารเพียง 15 บาท เท่านั้นจ้า จากสถานีรถไฟก็สามารถต่อรถสองแถวเที่ยวต่อได้เลยค่า
9. เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ : https://www.chillpainai.com/scoop/10210/
ต่อกันกับทริปรถไฟลอยน้ำ ณ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ค่ะ เป็นทริปที่ทางการรถไฟฯ จัดขบวนรถไฟพิเศษให้ได้ไปเที่ยวกันในช่วงเดือน พฤศจิกายน – มกราคม โดยมีราคาตั๋วไป-กลับอยู่ที่ประมาณ 270 – 470 บาท
10. นั่งรถไฟไปหัวตะเข้ : https://www.chillpainai.com/scoop/7318/
ทริปสุดท้ายจ้า เอาใจคนมีเวลาน้อยอีกซักทริป เพราะเราจะพานั่งรถไฟจากหัวลำโพงมาที่ ‘สถานีหัวตะเข้’ กัน บอกเลยว่าใช้เวลาแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น แถมค่าโดยสารแค่ 7 บาท อะหื้ม! ดีงามอะไรขนาดนี้
#นั่งรถไฟ #รถไฟ
เนื้อหาของวิดีโอ 10 ทริปใกล้กรุงเทพฯ นั่งรถไฟไปเที่ยวได้
วันหยุดครั้งหน้าใครกำลังมองหาที่เที่ยว วันนี้พวกเราชิลไปไหนจะมาชวนนั่งรถไฟฉึกกะฉักปู๊นปู๊นไปเที่ยวกันค่ะ กับสิทธิใกล้กรุงที่นั่งรถไฟไปเที่ยวได้ พร้อมออกเดินทางแล้วตามพวกเรามาได้เลย ก่อนอื่นเลยค่ะ ไม่ว่าจะไปเที่ยวทริปไหนโดยรถไฟก็ตาม เพื่อนสามารถเช็คตารางการเดินรถและค่าโดยสารได้จากเว็บไซต์ของการรถไฟ หรือโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ที่เบอร์ 1690 ได้เลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่นตรวจสอบเวลาการเดินรถ ที่โหลดมาไว้เช็ครายละเอียดต่างๆได้ในมือถือแบบชิวๆด้วยจ้า โอเคค่ะ เช็ครอบรถเรียบร้อยก็ไปเที่ยวต่อกันเลย เริ่มต้นที่คลิปแรกค่ะ เราจะพานั่งรถไฟไปไหว้พระขอพร ทานของอร่อยและชิวริมแม่น้ำบางปะกงกันที่จังหวัดฉะเชิงเทราค่ะ จากกรุงเทพฯนั่งรถไฟไปใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ถ้าเป็นรถพัดลมธรรมดา ค่าโดยสารจะอยู่ที่ 13 บาท ปลายทางให้ลงที่สุด สถานีชุมทางฉะเชิงเทราจ้า หรือถ้าเดินทางช่วงเสาร์อาทิตย์จะจองตั๋วรถไฟขบวนพิเศษก็ได้ค่ะ เป็นตั๋วเที่ยวเดียวราคาอยู่ที่ 8 มาเที่ยวค่ะ สิ่งห้ามพลาดเมื่อมาถึงที่นี่ ก็คือการไหว้พระขอพรจากหลวงพ่อโสธร ที่วัดโสธรวรารามวรวิหารค่ะ เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง ที่ว่ากันว่ามาขอพรกันแล้วจะสมหวังดั่งใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานเรื่องสุขภาพหรือว่าขอแก้ชง หลังจากไหว้พระเสร็จจะแนะนำให้ไปแวะเที่ยวตลาดบ้านใหม่ 100 ปี หาของกินอร่อยๆกันค่ะ นอกจากนี้ ฉะเชิงเทราก็ยังมีวัดและที่เที่ยวน่าแวะ เพียบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นวัดสมานรัตนาราม วัดที่เป็นที่ประดิษฐานของพระพิฆเนศปางนอนเสวยสุของค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย วัดปากน้ำโจ้โล้ ซึ่งมีพระอุโบสถ ทองคำอันสวยงาม หรือถ้าใครเป็นสายชิว แนะนำให้แวะมาที่ River Breeze Cafe คาเฟ่ริมแม่น้ำบางปะกงที่มีบรรยากาศ เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อน แผนที่มีโฮมสเตย์ให้เข้าพักชิวๆจ้า ไปกันต่อค่ะกับทริปเที่ยวพัทยา เมืองชายทะเลใกล้กรุงสุดฮิต ทริปนี้เรานั่งรถไฟสายตะวันออกไปได้เช่นกัน มีทางรถไฟธรรมดาที่ค่าโดยสาร ตกเที่ยวละ 30 กว่าบาท และรถไฟขบวนพิเศษในวันเสาร์อาทิตย์ ซึ่งเป็นสายตะวันออกเหมือนกับที่ไปฉะเชิงเทราค่ะ ค่าโดยสารจะอยู่ที่ 170 บาท ต้องจองก่อนครับผม สำหรับที่เที่ยวบอกได้คำเดียวว่าจัดเต็มค่ะ พืชสามารถเลือกลงเที่ยวได้ตามใจชอบ ถ้าอยากหาของอร่อยๆทานและนั่งเรือเล่นเพลิน ก็นั่งขบวนพิเศษไปลงที่ตลาดน้ำ 4 ภาคได้เลย หรือถ้าอยากเที่ยวชมธรรมชาติเดินเล่นแชทภาพ ก็ลงที่สวนนงนุช แล้วต่อรถจ้างเขาไปเที่ยวต่อค่ะ ส่วนถ้าใครอยากเที่ยวทะเลพัทยาหรือเกาะล้าน ก็ลงสถานีพัทยาแล้วต่อสองแถวไปเที่ยวกันได้ ที่สำคัญใครอยากไปเที่ยวอำเภอสัตว์ ก็ลงที่สถานีพลูตาหลวง แล้วเหมาสองแถวไปเที่ยวต่อได้หลายที่เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหาดเตยงามหาดนางรำ น้ำตาล หรือถ้าใครอยากไปเที่ยวเกาะแสมสารหรือเกาะขาม ก็ลงสถานีนี้ แล้วต่อรถสองแถว ไปที่ท่าเรือได้สบายๆจ้า ไปเที่ยวอีก 10 ริมน้ำกันค่ะ กลับจังหวัดสมุทรสงคราม เมืองริมน้ำแม่กลองที่ฮอตฮิตทั้งที่กินที่เที่ยวที่พัก ซึ่งการเดินทางไปด้วยรถไฟ ต้องขึ้นรถไฟสายวงเวียนใหญ่มหาชัย ไปลงที่สถานีมหาชัย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ จากนั้นก็นั่งเรือข้ามฟากไปที่ท่าฉลอม แล้วไปต่อรถไฟอีก สายที่สถานีรถไฟบ้านแหลม เพื่อที่จะไปลง สถานีแม่กลองค่ะ ซึ่งพิกัดนี้เป็นที่ตั้งของตลาดร่มหุบ เส้นทาง รถไฟที่มีความแปลกไม่เหมือนใคร เราจะได้เห็นพ่อ พ่อค้าแม่ขาย ข้อสอบโลกและเก็บ รถไฟที่วิ่งผ่ากลางตลาดค่ะ เป็นความ Amazing unseen thailand จ้า และจากสถาน สถานีนี้ เราสามารถนั่งรถสองแถวไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวากันต่อได้เลย ของอร่อยๆกิน ซื้อปลาทูมันมานั่งเรือชมวิว หรือจะหาที่ ที่พักริมน้ำนอนเล่น จะทำได้เฉยเลย อีกหนึ่งจังหวัดใกล้กรุงเทพนั่งรถไฟไปเที่ยวได้ไม่ยาก เราขอยกให้กับจังหวัดนครปฐมเลยค่ะ โดยเราสามารถเลือกนั่งรถไฟสายกรุงเทพ- หัวหิน หรือจะเป็นสายธนบุรีหลังสวนก็ได้ค่ะ โดยค่าโดยสารจะตก เที่ยวละประมาณ 10 บาท 14 บาทเท่านั้น สำหรับเส้นทางในการเที่ยวเราขอแนะนำรุ่นนี้เลยค่ะ ลงที่สถานีนครปฐม แล้วก็เดินเล่นตลาด หาของอร่อยทานก่อน จากนั้นก็แวะไปไหว้พระที่องค์พระปฐมเจดีย์กันก่อนเลยค่ะ แล้วค่อยหารถสองแถวต่อหรือว่านั่งที่วินก็ได้ค่ะ ไปเที่ยวต่อที่พระราชวังสนามจันทร์ แล้วช่วงเย็นๆก็หาคาเฟ่บรรยากาศดีสักที นั่งชิวในแถวระแวกใกล้เคียงแล้วค่อยขึ้นรถไฟกลับค่ะ ไปต่อกันกลับทริปเที่ยวจังหวัดราชบุรีค่ะ พิกัดนี้อยู่ใกล้กันกับนครปฐม แถมนั่งรถไฟ สายเดียวกันได้ด้วย แต่ว่าไปไกลกว่ากันนิดนึงค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ค่าโดยสารประมาณ 22-25 บาทเท่านั้น มาลงที่สถานีราชบุรีได้เลยค่ะ จากนั้นบอกรถตุ๊กๆหรือว่าพี่วินไปเที่ยวกันต่อ ที่หอศิลป์ร่วมสมัย เถ้าฮงไถ่ดี รัชกาลศิลปะและนั่งจิบกาแฟ กาแฟเพลิน จากนั้นก็แวะมาเที่ยวย้อนราชบุรีวันๆกันที่พิพิธภัณฑ์ สถานแห่งชาติราชบุรีค่ะ ใครยังไม่ตกใจก็ต่อรถไปเที่ยวกันที่อุทยานหินเขางูเป็นค่ะ เป็นอีกหนึ่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น อุทยานหินที่สวยที่สุดในเมืองไทย มีสะพานแขวนที่เดินเล่นชมบรรยากาศอันสวยงาม โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ ใกล้ตกดิน บอกเลยว่าประทับใจสุดๆค่ะ เที่ยวต่ออย่ารอช้าค่ะ คราวนี้เราจะพานั่งรถไฟไปหัวหินกันบ้าง ไปตกหลุมรักกับสถานีรถไฟหัวหิน พิกัดที่สวยคลาสสิคน่าถ่ายภาพที่ระลึก แล้วตะลุยเที่ยวเมืองชายทะเลยอดฮิต ที่ติดอันดับเมืองตากอากาศลำดับต้นๆของเมืองไทย สำหรับสายรถไฟที่จะมาหัวหิน เพื่อนจะเลือกขึ้นสายกรุงเทพฯหัวหิน สายธนบุรีหลังสวน หรือว่าสายชลบุรีประจวบคีรีขันธ์ก็ได้ค่ะ โดยค่าโดยสารจะอยู่ที่ประมาณ 42-44 บาท เดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงค่ะ ซึ่งพอมาถึงสถานีหัวหินเพื่อนจะต่อสองแถวหรือว่าขึ้นวินมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวก็ได้เหมือนกันค่ะ ซึ่งทหาร เที่ยวแถวตัวเมืองและคลายที่ฟิตหน่อยนะคะ ก็สามารถเดินลัดเลาะ เที่ยวแล้วก็หาของ ของกินแถวนั้นได้เลยค่ะ มีทั้งตลาด ใช้ตลาดโต้รุ่งหัวหิน ชายหาดหัวหิน และร้านอร่อยเด็ด ขนมหวานป้าปรางค์ขนมไทยที่แนะนำว่าต้องไปลอง หรือว่า the Chocolate Factory หัวหินร้านอาหารบรรยากาศ ที่มานั่งชิวได้เพื่อนๆแล้วค่ะ ถ้ามีเวลาว่างเสาร์อาทิตย์แต่ยังไม่มีแพลนจะไปเที่ยวไหน เราอยากชวนมานั่งรถไฟไปกาญจนบุรีกันค่ะ เส้นทางนี้จะพาเราไปรับลมเย็นๆ ชมธรรมชาติและย้อนรอยประวัติศาสตร์กันค่ะ ซึ่งไฮไลท์ของรถไฟสายนี้ เราขอยกให้กับ สะพานข้ามแม่น้ำแคว Landmark สำคัญที่รถไฟจะวิ่งผ่านและจอดให้ ถ่ายรูปเป็นระยะ และถ้ำกระแซ หรือบริเวณโค้งมรณะซึ่งเป็นระยะทางกว่า 400 เมตร ที่ด้านซ้ายจะติดแม่น้ำแควน้อย และด้านขวาขณะด้วยหน้าผาสูงโค้งชนหน้าหวาดเสียว เดียวกันก็เป็นจุดที่สวยงามที่สุดเช่นกันค่ะ ปัจจุบันเส้นทางนี้ไปสุดปลายทางที่บ้านท่าเสาหรือว่าสถานีน้ำตา ตกไทรโยคน้อยค่ะ ส่วนต้นทางของสายนี้จะอยู่ที่สถานีธนบุรี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง ค่าโดยสารอยู่ที่ 20 5 บาทค่ะ คราวนี้ไปเที่ยวใกล้ๆกันอีกนิดค่ะ เที่ยวอยุธยา ซึ่งเราจะนั่งรถไฟจากกรุงเทพฯไปได้ ใช้เวลาแค่ชั่วโมงกว่าๆ และค่าโดยสาร 5 บาทเท่านั้นจ้า จากสถานีรถไฟก็สามารถต่อสองแถวเที่ยวต่อได้เลยค่ะ การมาเที่ยวที่นี่หลักๆก็จะเป็นเมืองเก่าให้เราได้ตามรอยประวัติศาสตร์ จะเต็มไปด้วยวัดเก่าแก่สวยงามทรงคุณค่า ไม่ว่าจะเป็นวัดไชยวัฒนาราม วัดใหญ่ชัยมงคล หรือวัดพระศรีสรรเพชญ์ อีกทั้งยังมีคาเฟ่และร้านอาหารอร่อยเด็ดวิวดี กาแฟนั่งชิว แผนที่มีที่พักริมน้ำให้เลือกเช็คอิน เพียบจ้า ต่อกันกับทริปรถไฟลอยน้ำที่เขื่อนป่าสัก สักชลสิทธิ์ค่ะ เป็นทริปที่การรถไฟจัดขบวนพิเศษไปเที่ยวกันในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคม ดูจะมีค่าตั๋วไปกลับอยู่ที่ประมาณ 270 บาท ถึง 407 10 บาทค่ะ รถไฟจะออกจากหัวลำโพงแต่เช้านะจอดรับผู้โดยสารตามสถานีต่างๆไปเรื่อยๆค่ะ แล้วจะมีการหยุดให้ชมทุ่งทานตะวันเหลืองอร่าม ซึ่งไฮไลท์ของทริปนี้ คือการหยุดให้ชมทิวทัศน์ เขื่อนป่า ทุกคนจะได้เห็น ทอดยาวถ้ำกลางทัศนียภาพอันสวยงามโดยรอบค่ะ นอกจากนี้เขายังจอดให้เราลงมาทำกิจกรรมต่างๆอีกหลายอย่างเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นนั่งรถลากชมวิวบนเขื่อน ให้อาหารปลาหรือว่าสักการะหลวงปู่ใหญ่ หากใครสนใจทริปเที่ยวรถไฟลอยฟ้าแบบนี้ ก็รอติดตามข่าวสาร จากทางการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ทุกปีค่ะ สุดท้ายแล้วค่ะ ขอเอาใจคนมีเวลาน้อย เขาว่าเราจะพาไปนั่งรถไฟจากหัวลำโพงมาที่สถานีหัวตะเข้กันค่ะ บอกด้วยว่าใช้เวลาแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น แถมค่าโดยสารแค่ 7 บาทเองจ้า พอมาถึงสถานีรถไฟ เราก็ตอบ แถวไหนค่ะ มึงมาที่ชุมชนตลาดไม้เก่า หัวตะเข้กัน มาที่นี่เราจะได้สัมผัส ขัดกับกลิ่นอาย บ้านไม้ตั้งอยู่ริมคลองมีหลังคา มีเสน่ห์ เพราะตัว คาเฟ่ให้นั่งเล่นชมบรรยากาศริมคลอง กี่โมง เพียบเลยค่ะ ใครที่ชอบอะไรที่มีความเป็นเท็จ แน่นอน เป็นยังไงกันบ้างครับกับพิกัดดีๆที่เราหยิบมาแนะนำกัน ถ้าชอบถ้าถูกใจก็อย่าลืมกด Subscribe Channel และติดตามแฟนเพจอยู่ไปไหนไม่ได้นะคะ จะได้ไม่พลาดเรื่องราวท่องเที่ยวอัพเดทใหม่จากพวกเรา
