10 จุดเช็คอินที่กิน – ที่เที่ยวกาญจนบุรี มากี่ทีก็ไม่มีเบื่อ

สวัสดีครับทุกท่าน! หากคุณกำลังวางแผนท่องเที่ยวไปยังจังหวัดกาญจนบุรีในไม่ช้านี้ คุณมาถูกที่แล้ว เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำเส้นทางสำหรับคนที่รักการเที่ยวและการกินอย่างเท่าทันของคาบสมุทรแห่งนี้ มาร่วมติดตาม “10 จุดเช็คอินที่กิน – ที่เที่ยวกาญจนบุรี มากี่ทีก็ไม่มีเบื่อ” กันเลย!

เช็คอินที่ 1: หมูกะทะเจ๊โอว

10 จุดเช็คอินที่กิน - ที่เที่ยวกาญจนบุรี มากี่ทีก็ไม่มีเบื่อ - YouTube

เมื่อคุณมาถึงกาญจนบุรี คุณต้องลองแวะไปเช็คอินที่หมูกะทะเจ๊โอวที่ตั้งอยู่ในตัวเมือง เจ้าข่ายนี้เป็นที่รู้จักกันดีในการเสิร์ฟอาหารหมูกะทะที่อร่อยและเป็นเอกลักษณ์ เมนูยอดนิยมที่ควรลองคือหมูกระทะผัดพริกเผาและหมูชุบ อร่อยมากกับรสชาติเผ็ดฉุนของพริกเผาที่มีรสชาติเข้มข้น แน่นอนว่าคุณจะไม่ผิดหวังเลย!

เช็คอินที่ 2: ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นเย็นตาโฟ

10 จุดเช็คอินที่กิน - ที่เที่ยวกาญจนบุรี มากี่ทีก็ไม่มีเบื่อ

หากคุณต้องการลิ้มลองรสชาติของก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นเย็นตาโฟที่มีชื่อเสียง อย่าพลาดที่จะเช็คอินที่ร้านนี้ เมนูเด่นที่ต้องลองคือก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นเย็นตาโฟที่มีเส้นเล็กนุ่ม รสชาติของซุปตุ๋นเย็นเย็นที่อร่อยและหอมมาก ร้านนี้เป็นที่นิยมของคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสรสชาติอาหารถิ่นกาญจนบุรีอย่างแท้จริง

เช็คอินที่ 3: ร้านกาแฟชั้นนำที่มีวิวทะเล

10 จุดเช็คอินที่กิน - ที่เที่ยวกาญจนบุรี มากี่ทีก็ไม่มีเบื่อ

ถ้าคุณต้องการหยุดพักและชิลล์กับกาแฟช่องท้องทะเล ไม่ควรพลาดที่จะเช็คอินที่ร้านกาแฟชั้นนำที่มีวิวทะเลในกาญจนบุรี ที่นี่คุณสามารถสัมผัสบรรยากาศที่สดชื่นและร่มเย็นได้อย่างเต็มที่ ออกแบบสถานที่สวยงามและมีบริการที่ดี เพลิดเพลินกับการชิลล์กับกาแฟชุดพิเศษของพวกเขาและทิ้งตัวเองไว้กับวิวทะเลที่สวยงาม

เช็คอินที่ 4: ร้านอาหารทะเลสด

10 จุดเช็คอินที่กิน - ที่เที่ยวกาญจนบุรี มากี่ทีก็ไม่มีเบื่อ

กาญจนบุรีเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีอาหารทะเลสดอร่อยมากมาย หากคุณเป็นคนรักษาสุขภาพและต้องการสัมผัสรสชาติของอาหารทะเลสดๆ ก็ควรมาเช็คอินที่ร้านอาหารทะเลสดที่ตั้งอยู่ริมทะเลในเมืองกาญจนบุรี คุณจะได้สัมผัสรสชาติอันหอมหวานและสดชื่นของปลาทะเลสดที่รางวัล อาหารที่นี่ไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังถูกบรรจุและเสิร์ฟในลักษณะที่สวยงามด้วย

เช็คอินที่ 5: ร้านอาหารไทยพื้นเมือง

10 จุดเช็คอินที่กิน - ที่เที่ยวกาญจนบุรี มากี่ทีก็ไม่มีเบื่อ

เมื่ออยู่ในกาญจนบุรี คุณต้องลองชิมรสชาติของอาหารไทยพื้นเมืองที่นี่ มาร่วมเช็คอินที่ร้านอาหารไทยพื้นเมืองที่นี้เพื่อสัมผัสรสชาติที่อร่อยและแท้จริงของอาหารไทย ร้านนี้มีเมนูหลากหลายที่สามารถตอบโจทย์ทุกคนได้ เริ่มตั้งแต่แกงไก่, ผัดไทย, ต้มยำกุ้ง ไปจนถึงขนมไทยหวานๆ ที่มีรสชาติหวานละมุนและมีกลิ่นหอมอร่อยที่ไม่เหมือนใคร

เช็คอินที่ 6: ร้านขนมไทยอร่อย

10 จุดเช็คอินที่กิน - ที่เที่ยวกาญจนบุรี มากี่ทีก็ไม่มีเบื่อ อัพเดทใหม่  2020 - ชิลไปไหน

ร้านขนมไทยในกาญจนบุรีนั้นยังเป็นที่รู้จักกันดีในรสชาติของขนมไทยอร่อย ถ้าคุณมาถึงที่นี่ อย่าลืมเช็คอินที่ร้านขนมไทยเพื่อรับประทานขนมไทยแสนอร่อยที่มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งขนมจีบ, ขนมเปียกปูน, ขนมต้ม, ขนมเข่ง และอีกมากมาย รสชาติของขนมไทยที่นี่อร่อยล้ำลึกและมีความเป็นเอกลักษณ์

เช็คอินที่ 7: ร้านกาแฟคาเฟ่บรรยากาศดี

10 จุดเช็คอินที่กิน - ที่เที่ยวกาญจนบุรี มากี่ทีก็ไม่มีเบื่อ

หากคุณหลงเข้าร้านกาแฟคาเฟ่ที่มีบรรยากาศดี สวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ กาญจนบุรีก็มีที่ให้คุณได้เช็คอิน ร้านกาแฟคาเฟ่ที่นี่มีอาณาเขตสวนสวยงามและมีพื้นที่กว้างขวาง คุณสามารถใช้เวลาเพลิดเพลินกับการดื่มกาแฟและชิลล์อยู่ในบรรยากาศที่เงียบสงบและผ่อนคลาย

เช็คอินที่ 8: ร้านกาแฟสไตล์เมืองโบราณ

10 จุดเช็คอินที่กิน - ที่เที่ยวกาญจนบุรี มากี่ทีก็ไม่มีเบื่อ

ร้านกาแฟสไตล์เมืองโบราณในกาญจนบุรีเป็นที่เช็คอินที่นักท่องเที่ยวทั้งในและนอกจังหวัดต่างหากหากต้องการสัมผัสบรรยากาศแบบโบราณและหัวใจของเมืองเก่า ร้านกาแฟสไตล์เมืองโบราณนี้มีออกแบบในสไตล์ยุคยุคในอดีต และเสริมด้วยรสชาติกาแฟที่หอมหวานและอร่อย

เช็คอินที่ 9: ร้านกาแฟแนวสตรีทฟู้ด

10 จุดเช็คอินที่กิน - ที่เที่ยวกาญจนบุรี มากี่ทีก็ไม่มีเบื่อ อัพเดทใหม่  2020 - ชิลไปไหน

หากคุณชื่นชอบแนวสตรีทฟู้ดและชอบกาแฟที่สวยงาม กาญจนบุรีก็มีร้านกาแฟแนวสตรีทฟู้ดที่คุณควรเช็คอิน ที่นี่คุณสามารถประทับใจกับกาแฟที่มีลักษณะการเสิร์ฟที่สวยงามและเหมาะสำหรับการถ่ายรูป ร้านกาแฟนี้มีชื่อเสียงในการบรรจุและการจัดเสริมให้กาแฟดูเป็นอีกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร

อ่านเพิ่มเติม  เที่ยวสวนผึ้ง ราชบุรี: วันหยุดฟรีหนึ่งวัน

เช็คอินที่ 10: ร้านอาหารสวนธารา

10 จุดเช็คอินที่กิน - ที่เที่ยวกาญจนบุรี มากี่ทีก็ไม่มีเบื่อ

สุดท้ายนี้ เรามาถึงร้านอาหารสวนธาราที่เช็คอินอีกหนึ่งที่คุณไม่ควรพลาด เส้นทางท่องเที่ยวในกาญจนบุรีจะไม่สมบูรณ์หากคุณยังไม่ได้มาสัมผัสกับบรรยากาศสวนธาราที่งดงาม ร้านอาหารนี้มีการจัดสวนและออกแบบอย่างดีเยี่ยม คุณสามารถทานอาหารอร่อยพร้อมชมวิวที่สวยงามของสวนธาราได้อย่างเต็มที่

เช็คอินแล้วได้รับประสบการณ์ท่องเที่ยวและการกินอันหลากหลายในกาญจนบุรี มาถึงจุดสิ้นสุดของการเที่ยวและกินแบบท่องเที่ยวในจังหวัดนี้ แต่อย่าลืมเช็คข้อเท็จจริงเพิ่มเติมและแผนที่เพื่อให้คุณมีประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในกาญจนบุรี

คำสรุป

หวังว่าบทความ “10 จุดเช็คอินที่กิน – ที่เที่ยวกาญจนบุรี มากี่ทีก็ไม่มีเบื่อ” นี้จะเป็นแหล่งข้อมูลและแรงบันดาลใจที่ดีให้กับคุณที่กำลังวางแผนท่องเที่ยวไปยังกาญจนบุรี อย่าลืมลองสัมผัสและสนุกกับอาหารท้องถิ่นอร่อยๆ และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นเต้น มาพบกับประสบการณ์ท่องเที่ยวที่สุดแสนน่าเบื่อกับเส้นทางนี้!

#กาญจนบุรี #ที่เที่ยว #ที่กิน
ดูรีวิวเพิ่มเติม https://www.chillpainai.com/scoop/12204/

1.สะพานข้ามแม่น้ำแคว
ที่ตั้ง : ข้ามแม่น้ำแควใหญ่ ตำบล ท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี กาญจนบุรี 71000
GPS: https://goo.gl/maps/Rm4RMYx7FEEr9Gp7A

2.Kan Machi Cafe
ที่ตั้ง : เลขที่ 55/55 หมู่ 2 ถนนแม่น้ำแคว ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
เปิดบริการเวลา : 10.00น.-19.00 (หยุดทุกวันพุธ *ยกเว้นวันพุธที่เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์เปิดตามปกติ)
เบอร์โทรศัพท์ : 0945926553
Facebook: Kan Machi Cafe
GPS: https://goo.gl/maps/9kWaqa1hDx93WqFW8

3.ต้นจามจุรียักษ์
ที่ตั้ง : บ้านกสิกรรม ต.เกาะสำโรง อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี (ตั้งอยู่ภายในกองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ 1 (กองผสมสัตว์)
เปิดทำการเวลา: วัน จ.-ศ. 08.30-16.30 น. , เสาร์-อาทิตย์ 08.30-17.00 น
GPS: https://goo.gl/maps/2eCYhYnzPB9VuiLP9

4.Lakeview Cafe and Restaurant
ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/cRUb9qKxygfTdzYX9
เปิดบริการเวลา : 09:00 –19:00 น. (ปิดทุกวันพุธ)
เบอร์โทรศัพท์ : 0914494542 ‬
Facebook: Lakeview Cafe
GPS: https://goo.gl/maps/cRUb9qKxygfTdzYX9

5.วัดถ้ำเสือ
ที่ตั้ง : ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
GPS: https://goo.gl/maps/9WMmLHzZzXyTxKf17

6.มาตะกาญจน์ Cafe & Restaurant
ที่ตั้ง : ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
เปิดบริการเวลา : 08.00 – 21.00 น
เบอร์โทรศัพท์: 0804961915
Facebook: มาตะกาญจน์
GPS: https://goo.gl/maps/N9aNfYDmqxLqVr4L7

7.คาเฟ่ริมบัว
ที่ตั้ง : ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
เปิดบริการเวลา : 09.00-19.00 น.
เบอร์โทรศัพท์: 0803177104
Facebook: Cafe ริมบัว กาญจนบุรี
GPS: https://goo.gl/maps/8uyCGxTyDrd9bpV36

อ่านเพิ่มเติม  วิลล่าเขาแผงม้า รีวิว ที่พักวังน้ําเขียว วิลล่าส่วนตัว Mountain Suite View วิวเขา แนบชิดธรรมชาติ

8.ถ้ำกระแซ
ที่ตั้ง : ตำบลวังโพธิ์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
GPS: https://goo.gl/maps/F4hrJ1z8Ntrdj33v6

9.น้ำตกเอราวัณ
ที่ตั้ง : ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
เบอร์โทรศัพท์ : 034574222,034574288
Facebook: อุทยานแห่งชาติเอราวัณ Erawan National Park
GPS: https://goo.gl/maps/kC4wcpbTnGkGvPvA9

10.น้ำตกห้วยขมิ้น
ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี
เบอร์โทรศัพท์: 0623255498
เปิดทำการเวลา : 08.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
Facebook: อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ – KhuanSrinagarindra National Park
GPS: https://goo.gl/maps/Rj8k5f5RYr8ZNw3F6

#กาญจนบุรี #ที่เที่ยว #ที่กิน

เนื้อหาของวิดีโอ 10 จุดเช็คอินที่กิน – ที่เที่ยวกาญจนบุรี มากี่ทีก็ไม่มีเบื่อ

กาญจนบุรีอีก 1 จังหวัดที่ยกให้เป็นที่ โดนใจเลยค่ะเพราะที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายรวมถึงมีร้านอาหารประเภท ให้พี่ถ่ายรูปเช็คอินเพียบเลยอ่ะค่ะเรียกเลยว่าไปกี่ครั้ง แล้วยังสามารถเที่ยวได้ตลอด ใครมีแพลนมาเที่ยวกาญจนบุรีแต่ยังไม่รู้จะไปที่ไหนไม่ต้องกังวลเลยค่ะเพราะวันนี้จะไป ไปไหนรวบรวมสิ 10 จุดเช็คอินที่กินที่เที่ยวกาญจนบุรี พี่ก็ไม่มีเบื่อฉบับอัพเดทใหม่บอกเลยว่าถูกใจสายเซลฟี่แน่นอนที่สุดฟังขนาดนี้ ต้องการไปดูรีวิวแล้วล่ะค่ะ ลองดูที่แรกที่เป็นสัญลักษณ์ของ ของเมืองกาญ สะพานข้ามแม่น้ำแค**อดฮิตที่ถ้ามาไม่ถึงที่นี่เขาว่าคุณมาไม่ถึงเมืองกาญ สะพานข้ามแม่น้ำแควนั้นเดิมสร้างในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยเรื่องงานของเธอ ศึกฝ่ายสัมพันธมิตรภายใต้การควบคุมของ ของกองทัพญี่ปุ่น โดยใช้เวลาสร้างเพียง 1 เดือนและถูกระเบิดทิ้ง ทำนายจากกองบินสัมพันธมิตรต่อมาเมื่อสงครามยุติลงทางการไทยได้ซื้อทางรถไฟนี้ต่อ นอกจากอังกฤษและได้มีการบูรณะซ่อมแซมขึ้นใหม่ปัจจุบัน สะพานข้ามแม่น้ำแควนั้นเป็น 1 ที่เที่ยวยอดฮิตในกาญจนบุรีและยังได้รับการยกย่อง ให้เป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพ ส่วนใครที่อยากย้อนอดีตนั่งรถไฟข้ามสะพานแม่น้ำแคว เราขอแนะนำขบวนรถไฟสายธนบุรีน้ำตกหรือจะเลือกตั้ง ขบวนรถนำเที่ยวพิเศษกรุงเทพฯน้ำตกที่จะมีเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดแล้ว ราชการก็ได้ค่ะแล้วมาลงที่สถานีสะพานควายใหญ่ ซึ่งอยู่ที่เชิงสะพานข้ามแม่น้ำแควพอดีเลยค่ะนอกจากนี้สิ่งที่ห้ามพลาดขึ้นงาน สัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควและงานกาชาดจังหวัดกาญจนบุรีที่จะจัด ขึ้นประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคมของทุกปี โดยภายในงาน การแสดงแสงสีเสียงบนสะพานที่ทำให้เราย้อนรำลึก สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ยัง สวยงามอลังการสุดๆ จากนั้นเปลี่ยนโหมดไปเช็คอินที่คาเฟ่น่ารักๆสไตล์ญี่ปุ่นกันที่คลังมาจิ คาเฟ่ เขาจะเจอความเป็นญี่ปุ่นญี่ปุ่น ทั้งเสาโทริอิ ที่เป็นซุ้มประตูทางเข้าร้านบอกรักครับ สวนหินน้ำตก สะพานแดงรวมถึงอาหารและเครื่องดื่มโฮมเมด สไตล์ญี่ปุ่น ภายในร้านก็ไม่สนให้เลือกนั่งทั้ง indoor และ Outdoor สวยๆให้หน่อย โซเชียลแชร์ภาพเยอะมากค่ะในส่วนของเมนู ก็มีทางอาหาร เครื่องดื่มให้เลือกมากมาย ส่วนใครเป็น สายชาเขียวเลิฟเวอร์รับรองว่ากินหนักแน่นอน ของที่นี่เข้มข้นมากๆนะ จากนี้ก็ยังมีเมนูเครื่องดื่ม อีกเยอะเลยล่ะค่ะ อิ่มท้องกับอาหาร แล้วก็ไปต่อ ที่ต้นจามจุรียักษ์อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของกาญจนบุรีตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของกองการศึกษา ที่ 1 โครงการ ให้เข้าชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะซึ่งต้นจามจุรียักษ์นั้นเป็นต้นไม้ที่มีอายุยืนยาวกว่า 100 100 ปี ใครที่ไม่เห็นต้องตกตะลึงกับ ความใหญ่โตมโหฬาร ของต้นจามจุรีแห่งนี้ร่วม ถึงมีกลิ่น Chrome ให้ความร่มรื่นทั่วทั้งบริเวณ มีสะพานทางเดินอบล้อมรอบๆบรรยากาศร่มรื่นจะมาเซลฟี่ถ่ายรูปหรือมานั่งพักผ่อน ชิวๆก็เป็นเหมือนกันค่ะที่นี่จึงเหมาะ ใจในวันหยุดได้ดีสุดๆ เลยล่ะค่ะ แผนที่เลควิวคาเฟ่แอนด์ เป็นทั้งร้านอาหารและ บอกเลยว่าที่นี่โลเคชั่นสวย อบรมด้วยทะเลสาบ ชัตเตอร์แบบฉุดไม่อยู่เลยละค่ะ มุมถ่ายรูปให้เราแชร์ภาพ สวยได้ทั้งวันเลยค่ะ ส่วนมุมถ่ายรูปสุด ผิดต้องนี่เลย สะพานไม้ที่ยื่นออกไป ทะเลสาบ Background เป็นภูเขาบอกเลยว่าเลือดมาก ของที่ร้าน ก็มีทั้งเครื่องดื่ม ตอนเย็น อาหาร เรียกได้ว่ามาที่นี่ เดี๋ยวอิ่ม ราคา เดินทางไปเที่ยวกันต่อที่อำเภอท่าม่วงเริ่มด้วยกันมาไหว้พระทำบุญ เพื่อความเป็นสิริมงคลที่วัด ถ้ำเสือกันค่ะ ขึ้นวัดถ้ำ เสือเป็นวัดเก่าแก่และมีขนาด ที่สุดในโลก กาญจนบุรีมีพระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่ ฐานอยู่บนเนินเขา องค์พระประดับด้วยโมเสค ทำให้ดูโดดเด่น การตราพระอุโบสถ ทรงไทย จับลวดลายเสือ แกมาหาปราสาท 9 เมตรทำให้มองเห็น ไกลเลยล่ะค่ะ จากด้านบนสามารถชมวิวทิวทัศน์ของทุ่งนาเขียว IG เขื่อนวชิราลงกรณ์โดยรอบ นึกว่าใคร ตุ๊กตา เล่นจนเหนื่อยแล้วแวะไปทานเครื่องดื่มเย็นๆกันสักหน่อยค่ะที่มาจากการค่ะ Cafe & bed คาเฟ่และร้านอาหาร เสือตัวร้านเป็น ไปโรงงานแบบโมเดิร์น จบข่าว ใครที่สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้ มีทั้งโซนด้านในห้องแอร์และโซน Outdoor ให้ ชมวิวเพลินๆดีบริการ เครื่องดื่ม เบเกอรี่รวมถึงอาหาร หลายให้เราเลือกทาน ส่วนผมไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ คือบันไดสวรรค์ ท้องฟ้าและทุ่ง มุมถ่ายรูปที่ปังมากๆค่ะ เทียบแล้วหลายคน แน่นอนเลย คาเฟ่ ถ้ามาเปลี่ยนบรรยากาศ คนบ้านค่ะ คาเฟ่ริมบัว บอกเลยว่าไป หิวมากๆร้านตั้งอยู่ที่ ช้างกลางบึงบัว สามารถมองเห็นวิววัด ร้านนั่งชิวที่เราอยากแนะนำให้มาเช็คอินตัวร้านตกแต่ง แบบง่ายๆมีโซนให้นั่งอยู่หลายโซน ใครที่ชอบ ความเย็นฉ่ำก็แนะนำครั้งในห้องแอร์ค่ะ ส่วนใครอยากได้ความชิวรังสิต เครื่องดื่มพร้อมกับ ชมวิวก็แนะนำโซนริมน้ำเป็นเค้าเตอร์บาร์ พี่เก๋ หรืออยากได้ความเป็นส่วนตัวก็เป็นซุ้มกระท่อมที่ตั้งเรียงรายเป็นหลัง เมนูของที่ร้านก็มีทั้งอาหาร สายบัวต้มแซ่บกระดูกอ่อนกุ้งทอดซอส รวมถึงเครื่องดื่มให้เลือก เพียบเลยล่ะค่ะนอกจากนี้ก็มีสะพานทอดยาวกลางบึงบัวที่เราเดินเล่น ถ่ายรูปกันด้วยเลยก็คือหอ พลอยสำหรับ จากมุมสูง หรือจะไปนั่งชิวจากลมก็กินได้เหมือนกันค่ะ แผนที่ถ้ำกระแซอีก 1 แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตใครมากาญจนบุรีก็ต้องมาเช็คอินที่นี่ พี่ค่ะรออยู่ติดกับทางรถไฟสายมรณะขึ้นภายในถ้ำกระแซมีพระพุทธรูป สถานอยู่ไหว้พระขอพรเสร็จ เราก็เดินออกมา มาถ่ายรูปที่ทางรถไฟฟ้า สายมรณะได้จากตรงนี้ทำให้เรามองเห็นแม่น้ำแควน้อยด้วยค่ะถ้าใครยังไม่เคยมาเที่ยวแนะนำปัก มืดมาเลยค่ะรับรองว่าสวยคุ้มค่า กับการเดินทางมาแน่นอนค่ะ เอาใจคนรักธรรมชาติ ถ้ามาเช็คอินที่น้ำตกเอราวัณน้ำตกขนาดใหญ่ อบรมไปด้วยธรรมชาติ โดดเด่นด้วยน้ำที่เป็นสีฟ้าครามใส มองเห็นตัวปลาที่กำลังแบบ แบบว่าอยู่ใต้น้ำส่วนที่เราอยากกระโดด ลงเล่นน้ำ ซึ่งน้ำตกเอราวัณนั้นก็แบ่งออก เป็นชั้นๆค่ะมีทั้งหมด 7 7 ชั้นแต่ละชั้น ใครอยากได้ความฟินก็ไปให้ ครบทุกท่านเลยนะคะระหว่างทางก็มีธรรมชาติให้เราชมเพลินๆพร้อมกับสูดอากาศบริสุทธิ์ ชุดกันให้เต็มปอดไปเลยค่ะหรือจะมานอนแช่ตัวผ่อน ใครร่างกาย จะเหนื่อยล้าจากการทำงานเรียกได้ว่าเป็นการ ปิดท้ายความเย็นฉ่ำที่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นน้ำตก ของกาญจนบุรีที่เราอยากแนะนำให้มาใช้ in กันค่ะน้ำตก แห่งนี้สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ ทำให้อากาศเย็นสด สำหรับมาเที่ยวเล่นและพักผ่อนชิวๆสูดอากาศบริสุทธิ์ของ ธรรมชาติในวันหยุดเป็นที่สุด ส่วนเวลาที่อยากแนะนำให้มาเที่ยว ก็คือช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนเมษา เพราะน้ำไม่ขุ่น แล้วฝนก็ไม่ตกมากเกินไป ทำให้น้ำ กระโดดลง ไปเล่นมากๆ นอกจากนี้ มีลานกางเต็นท์นอนสบาย สบายฟังเสียงน้ำไหลได้ตลอดทั้งวันเลยล่ะค่ะ เป็นยังไงกันบ้างครับกับพิกัดดีๆที่เราหยิบมาแนะนำกัน ถ้าถูกใจก็อย่าลืมกด Subscribe Channel และติดตามแฟนเพจอยู่ไปไหนไม่ได้นะครับ จะได้ไม่พลาดเรื่องราวท่องเที่ยวอัพเดทใหม่จากพวกเรา

อ่านเพิ่มเติม  เที่ยวบางเสร่ นอนริมทะเลในหมู่บ้านชาวประมง บ้านต๊ะ คาเฟ่ริมทะเลสุดชิล เคป เพียร์
About the author

รัตนา มะลิเป็นผู้ที่หลงไหลในการเดินทางและอาหารในประเทศไทย เธอเก็บรวบรวมทุกสถานที่ สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารและอาหารพิเศษที่มีอยู่ในประเทศไทย โดยเธอเขียนเพื่อแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เป็นจริงในประเทศไทยกับผู้อ่านของเธอ

Leave a Comment