เที่ยว “กาญจนบุรี” นั่งรถไฟ ขับมอเตอร์ไซค์ ช้าๆ เนิบๆ | 5 วัน 4 คืน

ไปเที่ยว “กาญจนบุรี” คือประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและน่าตื่นเต้นในการสำรวจสวนสัตว์อันสวยงามของไทย มีหลายทริปที่คุณสามารถเลือกได้ แต่ในบทความนี้เราจะสนใจเที่ยว “กาญจนบุรี” โดยการนั่งรถไฟและขับมอเตอร์ไซค์เพื่อสัมผัสกับความสุขแบบช้าๆ เนิบๆ ภายในระยะเวลา 5 วัน 4 คืน

Table of Contents

เตรียมตัวสำหรับการเดินทาง

เที่ยว "กาญจนบุรี" EP.1 นั่งรถไฟ ขับมอเตอร์ไซค์ ช้าๆ เนิบๆ | 5 วัน 4 คืน |  วันใหม่ไปไหน

ก่อนที่คุณจะเริ่มการเดินทางเที่ยว “กาญจนบุรี” ในรูปแบบขับมอเตอร์ไซค์และนั่งรถไฟ คุณควรเตรียมตัวก่อนเดินทางให้พร้อม เช่น ตรวจสอบสภาพรถไฟและรถจักรยานยนต์ของคุณ และตรวจสอบเอกสารที่จำเป็นอื่นๆ เช่น ใบขับขี่ และบัตรประจำตัวประชาชน นอกจากนี้ คุณควรที่จะเติมน้ำมันให้เต็มถัง ตรวจเช็คและเตรียมตัวกันน้ำ และเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับการเดินทาง เช่น หมวกกันน็อค และเสื้อกันลม ที่สำคัญที่สุดคือ คุณควรตรวจสอบสภาพถนนและสภาพอากาศในเส้นทางที่คุณจะเดินทาง เพื่อให้คุณสามารถเตรียมตัวเสร็จสมบูรณ์เพื่อเริ่มการเดินทางได้อย่างปลอดภัยและสบายใจ

วันที่ 1: ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ

เที่ยว "กาญจนบุรี" EP.1 นั่งรถไฟ ขับมอเตอร์ไซค์ ช้าๆ เนิบๆ | 5 วัน 4 คืน |  วันใหม่ไปไหน - YouTube

ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ

เริ่มต้นการเดินทางของคุณจากกรุงเทพฯ โดยนั่งรถไฟตรงไปยัง “กาญจนบุรี” การเดินทางด้วยรถไฟจะให้คุณได้สัมผัสกับวิวที่งดงามของภูเขาและทุ่งนาในระหว่างทาง

เที่ยวชิลด์วัดไผ่แสงตา

หลังจากที่คุณเดินทางมาถึง “กาญจนบุรี” แนะนำให้คุณไปเยี่ยมชมชิลด์วัดไผ่แสงตา เป็นวัดที่มีบรรยากาศเงียบสงบและสวยงาม คุณสามารถเพลิดเพลินกับความสงบของวัดและพักผ่อนจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน

สัมผัสธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติเขาค้อ

ในช่วงบ่ายของวันแรก คุณสามารถขับมอเตอร์ไซค์ไปยังอุทยานแห่งชาติเขาค้อ เพื่อสัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติที่นี่ อุทยานแห่งชาติเขาค้อเป็นที่ตั้งของภูเขาที่มีความสูงสุดในภาคกลางของประเทศ คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเดินทางผ่านทางถนนขึ้นเขา และชมวิวที่ยามเย็นที่สวยงามของอุทยานแห่งชาตินี้

วันที่ 2: สำรวจพื้นที่รอบ ๆ กาญจนบุรี

เที่ยว "กาญจนบุรี" EP.1 นั่งรถไฟ ขับมอเตอร์ไซค์ ช้าๆ เนิบๆ | 5 วัน 4 คืน |  วันใหม่ไปไหน

สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ตลาดกลางคืน

ในเช้าวันที่สอง คุณสามารถเยี่ยมชมตลาดกลางคืนของ “กาญจนบุรี” ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตท้องถิ่น มีอาหารถ่ายทอดถึงความเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่น่าสนใจให้คุณเลือกซื้อเป็นของที่ระลึก

ชมวิวที่เขาวงกต

หลังจากพบกับวัฒนธรรมท้องถิ่น คุณสามารถขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นเขาวงกต เพื่อชมวิวที่สวยงามของท้องทะเลสาบกาญจนบุรี จุดชมวิวนี้เป็นที่สำคัญในการเที่ยว “กาญจนบุรี” ที่ต้องไม่พลาด

สัมผัสกับน้ำตกห้วยขมิ้น

ในบ่ายของวันที่สอง คุณสามารถดำน้ำที่น้ำตกห้วยขมิ้น น้ำตกที่สวยงามและบรรยากาศเงียบสงบ เดินทางกาญจนบุรี

วันที่ 3: สำรวจอุทยานแห่งชาติทับลาน

เที่ยว "กาญจนบุรี" EP.1 นั่งรถไฟ ขับมอเตอร์ไซค์ ช้าๆ เนิบๆ | 5 วัน 4 คืน |  วันใหม่ไปไหน - YouTube

พายเรือท่องเที่ยวทับลาน

ในเช้าวันที่สาม คุณสามารถเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติทับลาน เพื่อพายเรือท่องเที่ยวบนทะเลสาบทับลาน ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่งดงามและสันทรายที่สวยงามของทะเลสาบ

เดินทางสู่อ่าวทับลาน

หลังจากพายเรือแล้ว คุณสามารถขับมอเตอร์ไซค์ไปยังอ่าวทับลาน ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับชายหาดทรายขาวที่งดงาม และสามารถพักผ่อนบนชายหาดและน้ำทะเลสวยงามได้อย่างเต็มที่

สัมผัสกับศิลปะพื้นเมืองทับลาน

ในบ่ายของวันที่สาม คุณสามารถเยี่ยมชมศิลปะพื้นเมืองทับลาน ที่นี่คุณจะได้รับความรู้เกี่ยวกับศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่น และสามารถช้อปปิ้งของที่ระลึกและศิลปะท้องถิ่นได้

วันที่ 4: สิ้นสุดการเดินทาง

นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี นอนแพริมน้ำ 2 วัน 1 คืน l เฮฟเว่น แคว รีสอร์ท (Heaven  Kwai Resort) - YouTube

กลับสู่กรุงเทพฯ

ในเช้าวันสุดท้ายของการเดินทาง คุณสามารถขับมอเตอร์ไซค์กลับสู่กรุงเทพฯ โดยผ่านทางถนนหลวงหมายเลข 4 ที่จะพาคุณไปสู่จุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย

อ่านเพิ่มเติม  รวมพิกัด Unseen 20 ที่เที่ยวภาคเหนือที่คุณอาจยังไม่เคยไป

สรุปประสบการณ์การเดินทาง

สรุปประสบการณ์ที่คุณได้รับจากการเดินทางเที่ยว “กาญจนบุรี” ในรูปแบบขับมอเตอร์ไซค์และนั่งรถไฟ คุณได้สัมผัสกับธรรมชาติที่งดงามของภูเขาและทะเลสาบ สำรวจวัฒนธรรมและวิถีชีวิตท้องถิ่น และพบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นเต้น

สรุป

การเดินทางเที่ยว “กาญจนบุรี” โดยการขับมอเตอร์ไซค์และนั่งรถไฟเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและสนุกสนาน ภูมิประเทศและวัฒนธรรมท้องถิ่นของกาญจนบุรีจะนำคุณไปสัมผัสกับความงดงามและความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร อย่าลืมเตรียมตัวและสำรวจที่สนามบินและสถานที่ท่องเที่ยวก่อนเดินทาง และสุดท้ายอย่าลืมเพลิดเพลินกับการขับมอเตอร์ไซค์และนั่งรถไฟในระยะเวลา 5 วัน 4 คืนที่ไม่มีที่ไหนเหมือนและไม่มีวันที่เบื่อสำหรับคุณ!

กาญจนบุรี
เป็นทริปที่เจอทั้ง แดด ลม และ ฝน กันเลย
อาจจะไม่เป็นดั่งใจหวังบ้าง แต่ก็สนุกมาก
——————————————–
เช่ารถได้ที่ กาญจนบุรี มอเตอร์ไซค์รถเช่า
โทร 📞 0911253789
📍 พิกัด :https://goo.gl/maps/r1z5PgyDEhZvXBx6
.
อ่านรีวิว ที่พัก บ้านใจรัก รีสอร์ท
https://bit.ly/3PkuwBs
——————————————–
00:00 เปิดคลิป
01:02 #สถานีรถไฟธนบุรี
04:40 #สะพานข้ามแม่น้ำแคว
07:46 #บ้านใจรัก
09:44 ขับรถไปเที่ยวรอบๆ
10:55 ไร่ย่าแย้ม
14:00 กลับที่พัก บ้านใจรัก
15:33 ขับรถไป #เขื่อนศรีนครินทร์
18:01 #น้ำตกเอราวัณ
26:29 EP. ต่อไป
——————————————–
ใช้เพลงแบบถูกลิขสิทธิ์ แบบรายเดือนและรายปี ได้ที่ https://artlist.io/George-1204553

#เที่ยวกาญจนบุรี #roadtrip #เที่ยวไทย #วันใหม่ไปไหน #รีวิวที่พัก

เนื้อหาของวิดีโอ เที่ยว “กาญจนบุรี” EP.1 นั่งรถไฟ ขับมอเตอร์ไซค์ ช้าๆ เนิบๆ | 5 วัน 4 คืน | วันใหม่ไปไหน

ไงพวกอาไม่เจอกันนานเลยนะทริปนี้รับรองว่าหายคิดถึงแน่นอนเพราะเราจะพาไป นกแอร์นั่งรถไฟบวกขับรถมอเตอร์ไซค์ เที่ยวกาญจนบุรีแบบไม่พักกัน ตอนนี้เป็นเวลา 7:00 น เพื่อที่จะขึ้นรถไฟให้ทันรอบแรก เราจำเป็นต้องตื่นเช้ามาก แต่แปลกนะ ที่เรากลับรู้สึกกระฉับกระเฉง แทนที่จะง่วงซึมอาจจะเป็นเพราะว่า หัวใจของแม่ นักเดินทางคนนี้มันพร้อมที่จะใช้ชีวิต อีกครั้งแล้วค่ะ เราได้เสียกันมาแล้วในราคาคนละ 20 15 บาท เปลี่ยนตั๋วจากสถานีธนบุรีไปกาญจนบุรีขบวนธนบุรีน้ำตกซึ่งรถไฟรอบ จะมาถึงในเวลา 7:00 น 15 นาทีเรายังคงเหลือเวลาอีก พักใหญ่เลยค่ะที่ให้เราเตรียมพร้อมก่อนรถไฟจะมา ก่อนอื่นก็มาหาอะไรรองท้องกันก่อนเลย ซึ่งตรงข้ามกับสถานีรถไฟก็จะมีร้านค้าขายของกินอยู่เยอะมากเจ้าเลือกที่จะทาน กินข้าวต้มกับต้มเลือดหมู เป็นเมนูง่ายๆที่เหมาะกับมื้อเช้าและรวดเร็วทันใจดี ทานมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ไม่ต้องรอรถไฟกันต่อ เป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างตื่นเต้น ถ้าไม่บ่อยนักที่เราจะเลือกการเดินทางแบบไม่ได้รีบเหมือนครั้งนี้ ในที่สุดขบวนรถไฟของเราก็มาถึงแล้วค่ะทุกคน ก้าวเดินตรงไปเลือกที่นั่งและเก็บกระเป๋า ทำเปิดหน้าต่างรอให้ลมปะทะหน้าเหมือนอย่างภาพที่คิดไว้ในหัว เสียงระฆังดังขึ้น เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเรากำลังเดินทางออกจากจุดหมาย 1 ไปยังปลายทางที่เรากำหนดไว้ ออกแล้วเจอกันกาญจนบุรีศาล เดาว่า ของการนั่งรถไฟอ่ะ มันคือการไม่ให้เวลา ตัวเองนะ เพราะเมื่อเราก้าวเท้าขึ้นบันไดรถไฟมาแล้วจะเท่ากับว่าก็ปล่อยให้เวลาชีวิตของเรา ได้ค่อยๆผ่านไปแบบไม่ได้รีบ แล้วถ้าพูดถึงเรื่องระหว่างทางแล้วก็ เดาว่า รถไฟชนะแบบสวยๆอาจเป็นเพราะสามารถมองข้างทางได้อย่าง เจน ไม่มีรถสวนไปสวนมาเหมือนบนถนนที่เราคุ้นชิน ทำให้เห็นวิวกว้างได้อย่างสบาย สบายใจ สาขาก็มีแม่ค้าพ่อค้า ทยอยหิ้วของกินขึ้นมาขายบนขบวนเสียดายที่เราทานมาอิ่มแล้วก็เลยไม่ได้หยุด หนุนนั่งมาเกือบ 2 ชั่วโมงก็รู้สึกเริ่มง่วงแต่ก็มี ไม่แปลกนะเพราะเราเอาหน้าสู้ลมตลอดเวลาแถมยังตื่นเต้นกับทุกอย่างจนหมดพลัง ในที่สุดก็ถึงจังหวัดกาญจนบุรีแล้วค่ะเราเลือกลงที่สะพานข้ามแม่น้ำแควตอนนี้ ก็เป็นเวลาสิ 10:30 น ถือว่าทำเวลาได้ดีเลยมาถึงตรงนี้แล้วก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพสวยๆไว้ สะพานข้ามแม่น้ำแคว ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครมาจังหวัด นี้ต้องแวะ ไม่งั้นคงรู้สึกมาไม่ถึงจังหวัดกาญจนบุรีค่ะ ใกล้เที่ยงแล้วอากาศร้อนมากๆ เราแวะนั่งพักกี่นาที ครีมคลายร้อนกันแป๊บนึง และพากันไปหามื้อเที่ยงที่ศูนย์อาหาร ระหว่างรอพี่เจ้าของรถเช่ามารับเจ้าไม่รู้จะทานอะไร ก็เลยเลือกเป็นก๋วยเตี๋ยวไว้ก่อนคิดว่าเซฟสุดละแต่สรุปมันไม่เป็นอย่างที่คิดพรุ่งนี้ยังไงก็ไม่อร่อย อยู่ดี สักพัก เราก็มาถึงร้านกาญจนบุรีรถเช่าเราเลือกเป็นมอเตอร์ไซค์ราคา 300 บาทต่อวัน ทำการเกษตร เรียบร้อยแล้ว ก็เลือกหมวกกันน็อคเองได้เลย ทุกอย่างในร้านดูใหม่สะอาด อาจไม่ชำรุด ทำให้เราเลือกได้อย่างสบายใจเลยค่ะ เอาล่ะ พร้อมออกเดินทางไปกับเราแล้วใช่ไหมคะวันนี้เราจะไปต่อกันที่ อำเภอศรีสวัสดิ์นะคะเราจะพาทุกคนไปนอนพักชิลๆริมน้ำกะทิบ้านใจรักรีสอร์ท กาญจนบุรีซึ่งบ้านใจรักรีสอร์ทที่เรากำลังจะไปพักก็จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ในระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร เห็นบรรยากาศฟ้าครึ้มๆแบบนี้ ไปได้ค่อนข้างแรงเลยทีเดียวระหว่างทางก็เห็นวัดที่ไม่รู้จักชื่อตั้งอยู่บนยอดเขาด้วย เราชอบการขับรถมอเตอร์ไซค์แบบนี้แหละมันมองเห็นรายละเอียดของสถานที่นั้นๆได้เยอะกว่า ทำให้เราอยากเอาไปแพลนไว้ในทริปต่อไป วัฒนาอีกรอบข้างหน้าก็อยากแวะที่นั่นที่นี่ด้วยเป็นการค้นพบสิ่งใหม่ๆที่อยากมา มาด้วยตัวเองไม่ได้ตามมาจาก Social ที่คนอื่นรีวิว เราว่าน่าจะใกล้ ถึงแล้วค่ะ พอเริ่มเห็นวิวขาวและบ้านพักแพริมน้ำบ้างแล้ว พี่เลยที่พักของเรา บ้าน นี่ ถึงที่พักของเราแล้วแค่มองจากตรงนี้ก็ใจฟูแล้วค่ะ โยคะดีมากค่ะ เราก็เดินตามพี่เจ้าของที่พักไป พี่เขาก็จะแจ้งรายละเอียดต่างๆของทางที่พักให้เราทราบค่ะ ดูข่าวเชลซี ตุ๊กแก เกินต้านมาก บ้านใจรักรีสอร์ท สระบุรี บ้านพักเขาก็จะมีทั้งแพริมน้ำแบบนี้ และแบบบ้านพักบนบก ซึ่งราคาก็จะแตกต่าง ต่างกัน ทั้งนี้มาทั้งที เราก็เลือกที่จะพักแบบแพริมน้ำ ซึ่งในวันธรรมดา ราคาก็จะอยู่ที่ 1000 200 บาทต่อ ไม่รวมอาหาร เช้าแต่ถ้าเป็นช่วงวันหยุดก็จะเป็นราคา 1,500 บาทต่อคืนค่ะถือว่าคุ้มมากนะคะ เพราะว่าราคานี้คือรวมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมยังฟรีกิจกรรมพายเรือคายัค อีกด้วย ดีนะคะทุกคนเราก็ได้ห้อง เป็นที่เรียบร้อย อยู่ในห้องกันดีกว่า มาถึงก็ เป็นทีวีนะคะ ก็เป็นที่นอนเป็นเซ็ทโต๊ะเก้าอี้ อีนะคะ แล้วก็ มีสิ่ง สะดวก อาการน้ำร้อนกระติก น้ำแข็ง ถ้วยชาม ส่วนห้องน้ำนะคะก็จะ OK ได้รวมก็คือ Love You นี่เวลาเดินออกไปเดี๋ยวก็จะประมาณนี้ สวยมาก แต่ตอนเย็นแล้วก็จะมานั่งทานหมูกะทะนะคะแล้วก็ชมวิว ไปด้วย หายเหนื่อย ขับรถไม่นาน เราก็ไปเก็บสถานที่เที่ยวในเขื่อนศรีนครินทร์กันต่อ ตอนแรกก็คิดจะอยู่ในที่พักยาวจนถึงค่ำ แต่ก็อดใจไม่ไหวที่จะค้นหาที่เที่ยวรอบรอบและสถานที่ที่เรากำลังจะไปนั่นก็คือ ยายยายแหลมนั่นเองค่ะ เป็นไรยายแหยมก็ห่างจากบ้านใจรักประมาณ 10 6 กิโลเมตรใช้ระยะเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเจ้าก็รีบขับรถไปเลยค่ะ จะได้กลับไปทานหมูกระทะให้ทาน แต่งเย็นด้วย เมื่อเห็นป้ายเล็กๆสีขาว ก็ให้เราเลี้ยวขวาตรงไปเลย ทางที่เข้าไปก็จะเป็นถนนลูกรังดินแดง มีเบี้ยบ้านถูกค่ะบ้างปะปนกันไป ขับเข้าไปเรื่อยๆก็จะพบกับวิวกว้าง 180 องศาแบบนี้เลยค่ะ สวยมาก เป็นวิวเหนือ เขื่อนศรีนครินทร์ที่สามารถมองเห็นวิวอ่าว เก็บน้ำได้ไกลสุดลูกกะตาตอนนั้นคิดในใจเลยว่าถ้าไม่มาคงเสียดายทีหลังแน่ๆ และเหตุผลที่เราตัด สนใจมาที่ไร่ย่าแย้ม กระเพราหมูชิ้นนี้เลยค่ะเป็นมุมน้ำตกในสวนเล็กๆ ที่ไหลจากภูเขาธรรมชาติผ่านไร่ย่าแย้มลงสู่อ่าง เก็บน้ำเขื่อน ศรีนครินทร์เส้นมุมที่วาวมาก มันเหมือนสถานที่ที่เราฝันเอาไว้ในตอนเด็กๆเลย บริเวณ ไปดูบริเวณด้านล่างก่อนนะคะมันก็จะเห็นแบบ วิวน้ำตกขึ้นมาอย่างนี้ เราชื่นชมน้ำตกจากมุมด้านบนกันไปเยอะแล้ว เดี๋ยวจะพาเพื่อนๆไปดูน้ำตกสักด้านล่างกันบ้าง ซึ่งก็จะมีทางลงเป็นขั้นบันได ลงไปไม่กี่คันก็ได้สัมผัสกับน้ำตกใกล้ๆแบบนี้เลยฟินไปอีกแบบนะ พอได้เห็นธรรมชาติสวยงามแปลกใหม่เราก็จะได้เริ่มเป็นพิเศษเลยค่ะ เน็ตเพลินกับน้ำตกกันน้ำใจแล้ว ก็มาชมวิวด้านบนกันต่อยิ่งเจอแสงแดดช่วงยามเย็นก็ยิ่งสวยขึ้นไปอีก เป็นไร่ในฝันที่เราอยากจะ เกษตรบรรยากาศมันไปนานๆเป็นช่วงเวลาที่ดูสงบมากเลยนะ ถึงที่พักก็ใกล้มืดแล้วยังโชคดีที่ทำแสง Twilight เราโทรสั่งหมูกะทะ 1 ชุด แจกโบชัวร์ร้านอาหารในห้องพักให้มาส่งที่บ้านใจรักเป็นร้านอาหาร จากข้างนอกแต่มาส่งไวมากๆเจ้าขอไฟและจัดแจงของเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาปิ้งย่าง หมูกระทะกันแล้วบอกเลยว่าบรรยากาศช่วงทไวไลท์ตอนนี้ ฟินมาก เป็นที่พักที่ให้ความสงบ ผ่อนคลายและโดเมติกในเวลาเดียวกันความรู้สึกเหนื่อยๆก็หายไปเลยค่ะ ปิดท้ายคืนนี้ด้วยพระจันทร์เสี้ยวที่เปล่งแสงสว่างไสวในยามค่ำคืน สวยงามมากๆฝันดีนะคะทุกคน วันนี้เราออก เพื่อเข้าไปที่เขื่อน ศรีนครินทร์อีกรอบ คิดว่าไหนๆก็มาแล้วไม่ได้มาบ่อยๆ ก็เลยพยายามอยากจะ สถานที่เที่ยวรอบๆบริเวณนี้ให้ได้เยอะที่สุด บอกเลยว่า ทริปนี้เที่ยวผลตรวจโควิดที่ผ่านมาเลยค่ะ จริงๆตรงนี้เป็นที่ที่เราปักหมุด อดเอาไว้ ว่าอยากแวะมาชม เพราะในภาพ ที่เราเห็น มันจะเป็นน้ำตกไหลลงมาจากหน้าผาแต่สงสัยว่าอาจจะเป็นเพราะฝนยังไม่ตก ก็เลยไม่มีน้ำไหลลงมาหรือเปล่า เสียดายนะ แต่ไม่เป็นไร จะเอาไปส่ง การแข่งขันต่อดีกว่า นี่ไงเห็นป้ายแล้ว นั่นไงเราจะขับขึ้นไปตรงนั้นกันค่ะ ช่วงนี้เป็นอย่างตัวเฉยๆไม่มีค่า ค่าใช้จ่ายในการเข้าชมนะคะ สามารถเข้าไปได้เลย ถึงแล้วนะ จุดชมวิวสันเขื่อน ศรีนครินทร์ ลงมาไม่มีคนเลยอ่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าเราออกมาเช้ามากด้วย จริงๆแอบมาดูหมอกยามเช้าแต่แค่นี้ก็สวยมากแล้วเนอะ เก็บผ้าเสร็จแล้วก็ไปหามื้อเช้าทานกันค่ะ เราแวะทานมื้อเช้าที่ตลาดสดเอราวัณ กินหมูปิ้งหรือว่ากินข้าวต้ม ได้หมูปิ้งคนละ 3 ไม้กับข้าวเหนียวคนละห่อ เมื่อเช้าเรากินกันแค่นี้ก็อิ่มแล้วค่ะ เชฟวันนี้ยังไม่จบนะคะทุกคน เพราะเดี๋ยวเราจะไปต่อกันที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกเอราวัณ ค่าเข้าอุทยานจะอยู่ที่ ผู้ใหญ่คนละ 60 เด็กคนละ 30 บาท รถจักรยานยนต์คันละ 20 บาท รถยนต์คันละ 3 พี่พนักงานที่จ่ายตั๋วให้เขาบอกเราว่า วันนี้มีกองถ่ายละครที่น้ำตกชั้น 2 และ 3 ไม่สามารถถ่ายภาพหรือเล่นน้ำได้ แต่ฉันอื่นสามารถเล่นได้ปกติ ได้ยินแบบนั้นก็เสียดายก็เลยมาซ้ำอีกวันนึง ถ้าทุกคนเห็นว่าชุดเราไม่เหมือนกัน มันเป็นเพราะว่าเราเอาวีดีโอ 2 วันมารวมกันนะคะ ของทางเข้าน้ำตกเอราวัณก็จะมีบริการรถกอล์ฟ เข้าไปยังน้ำตกด้านใน ซึ่งอยู่ห่างจากที่จอดรถประมาณ 800 เมตรจะมีค่าบริการคนละ 3 แต่เราเลือกที่จะเดินชมเส้นทางธรรมชาติจริงๆคือไม่อยากเสียเงินแหละ มาเริ่มกันที่ชั้นที่ 1 เลย ฉันนี้มีชื่อว่า ไหลคืนรัง ฉันนี้จะมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่สายน้ำจะไหลลงตามผิวที่ลดหลั่นกันลงมา ขนาดชั้นแรกน้ำใสขนาดนี้ รอชมฉันต่อไปไม่ไหวแล้วค่ะ ใครจะเล่นน้ำเพื่อความปลอดภัย ก็พกชูชีพไปด้วยนะคะ ตอนนี้เราก็อยู่ น้ำตกชั้นที่ 2 นะคะ เอราวัณชั้น สวยมากนี่ขนาดแค่ชั้นที่ 2 ชั้นที่ 2 เรียกกันว่าวังมัจฉา แน่นอนว่าชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าวังมัจฉา ฉันนี้จะมีทั้งปลาตัวเล็กตัวใหญ่ ไหว้ ให้เราได้ชื่นชมกันอย่างเพลินเลยค่ะพี่สาว อันนี้เดินจากฉันได้ขึ้นมาแค่นิดเดียวเท่านั้นแต่ความอลังการที่ว่าสุดๆไปเลยค่ะ พี่นะคะ ตัวใหญ่มาก เมื่อก่อนคือกลัวมากเลย เพราะว่าแบบเวลานาน นั่งอยู่กับ กลัวมาก แต่เวลาที่นั่ง ตอนนี้ลูก วันนี้จะเป็นมุมยอด เลยนะคะเดี๋ยวเราจะ ชั้นที่ 3 เป็นชั้นที่เราอยากมาเก็บภาพมากที่สุดเลยค่ะ มีชื่อว่าถ่ายน้ำตก ฉันมีก็อยู่ห่างจากชั้นที่ 2 เพียง 200 เมตรเท่านั้น เรียกว่า เดินชมธรรมชาติอื่นๆก็ถึงแล้วอันนี้เราไม่แน่ใจว่าลูกตะกั่วหรือว่าลูกตัวเงินตัวทองนะคะ แผนผีเสื้อก็ยังอยู่ตรงนั้นด้วย อุดมสมบูรณ์ไม่ไหว สีน้ำที่นี่คือสวยสมคำร่ำลือมากทุกคนถ้าอยากมาเจอคนน้อยๆแบบเรา แนะนำให้มาช่วงเช้านะคะคนน้อยถ่ายรูปฟินมาก เดินชมธรรมชาติยังไม่ทันเหนื่อย เผลอแป๊บเดียวก็ขึ้นมาถึงชั้นที่ 4 แล้วค่ะ มีชื่อว่า อกนาง นางผีเสื้อ โดยจุดเด่นของน้ำตกชั้นนี้คือมีหินขนาดใหญ่ 2 ก้อน ที่มีลักษณะคล้ายกับหน้าอก ผู้หญิง แต่มีลักษณะใหญ่กว่า ก็เลยถูกเรียกชื่อ เป็นอกนางฟ้า ผีเสื้อสมุทรนั้นเองค่ะ สำหรับคนที่อยากขึ้นไปต่อชั้นที่ 5 ฉันนี้มีชื่อว่า เบื่อไม่ลง ต้องบอกก่อนเลยว่าถ้าจะขึ้นมาชั้นนี้ต้องฟิตร่างกายมาสักหน่อยเพราะทางขึ้นข้างๆ ราชันย์ ห่างจากชั้นที่ 4 ถึง 600 เมตรเป็นชั้นที่น้ำน่าเล่นมากเขาเป็นแอ่งน้ำเล็กๆลื่นๆ ให้ลงไปแช่น้ำแบบชิวๆรับรองเลยว่า เบื่อไม่ลงส่งชื่ออย่างแน่นอน ทางชั้นที่ 5 ถึงชั้นที่ 6 มีระยะทางประมาณ 300 เมตร ระหว่างทางก็มีแอ่งน้ำที่ใสจนเห็นตัวปลา ให้เราได้ชื่นชมอยู่เรื่อยๆแบบไม่เบื่อ เดินทางมาถึงชั้นที่ 6 ดง สาเป็นชั้นที่มีสะพานไม้ทอดยาวให้เราเดินไปสู่ชั้นสุดท้าย ชั้นที่ 7 ระหว่างทางก็เจอกับงูสีเหลือง คงจะเป็นปกติ ที่ป่าอุดมสมบูรณ์แบบนี้จะพบเจอกับสัตว์หลากหลายชนิด ใครทราบชนิดของงูก็สามารถพิมพ์ใต้เม้นด้านล่างได้นะคะ ไปกันต่อเลยค่ะ Yeah yeah ในที่สุดเราก็ได้เป็นผู้พิชิตน้ำตกเอราวัณแล้วค่ะ โคตรภูมิใจเลยเพราะเป็นปลายทางที่เหนื่อยมาก ชั้นสุดท้ายนี้ก็จะมีชื่อว่า ภูผาเอราวัณ เสียดายที่น้ำค่อนข้างน้อยไปหน่อย ก็ถือว่า เป็นการปิดทริปที่คุ้มค่ามากเลยค่ะ ได้เวลาเดินลงจากสวรรค์กันแล้ว ขาลงก็เจอกับเจ้ามังกี้ด้วย สนจริงๆ เรากลับมา check out จากบ้านใจรัก ก็เป็นเวลาตอนเที่ยงพอดีเป็นทริป 2 วัน 1 คืนที่เที่ยวไม่พักจริงๆ แล้วเราจะมาผจญภัยกันต่อในคลิปหน้าที่เมืองมนต์ขลังสังขละบุรีค่ะ บ๊ายบาย

อ่านเพิ่มเติม  นอนกลางทะเลฟีลมัลดีฟส์ ใกล้แค่บางเสร่
About the author

รัตนา มะลิเป็นผู้ที่หลงไหลในการเดินทางและอาหารในประเทศไทย เธอเก็บรวบรวมทุกสถานที่ สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารและอาหารพิเศษที่มีอยู่ในประเทศไทย โดยเธอเขียนเพื่อแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เป็นจริงในประเทศไทยกับผู้อ่านของเธอ

Leave a Comment