คุณเป็นคนที่ชอบขนมหวานไทยไหม? ถ้าใช่ล่ะก็ต้องลองสัมผัสความอร่อยของ “ขนมพระพาย” (Khanom Phra Pai) กันบ้างเถอะ! ในบทความนี้เราจะพาคุณสำรวจโลกของขนมหวานไทยที่น่าตื่นเต้นและอร่อยมาก ขนมพระพายเป็นขนมหวานที่มีความเป็นมาตามหลายสิบปีแล้ว และยังคงทำให้คนหลายๆ คนหลงใหลในรสชาติที่หวานหอมละมุนลิ้มไม่รู้ลืม
แนะนำขนมพระพาย
ขนมพระพายเป็นขนมหวานที่มีรสชาติอันหวานหอมเข้ากับรสนิยมของคนไทยอย่างลงตัว ชื่อขนมพระพายมาจากคำว่า “พระพาย” หมายถึง “อาหารแห่งความเจริญรุ่งเรือง” ที่ใช้ในพิธีทางศาสนาและประเพณี ขนมพระพายเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองและความสุข ทำให้มีความหมายทางวัฒนธรรมที่สำคัญ
ขนมพระพายมีลักษณะเป็นแผ่นบาง ๆ ที่ประกอบด้วยแป้งข้าวที่มีความนุ่มและหอม และไส้ที่เต็มไปด้วยความหวานอร่อย ไส้ของขนมพระพายส่วนใหญ่จะใช้วัตถุดิบเช่น มะม่วงเสวย แตงโม หรือน้ำเต้าหู้ ทำให้ขนมมีรสชาติที่หลากหลายและน่าตื่นเต้นในทุกคำเสนอ
ในวันนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับวิธีการทำขนมพระพายให้เหมาะกับคนที่มีความสนใจทางการทำอาหาร โดยเราจะสอนขั้นตอนการเตรียมส่วนผสมและวิธีการทำไส้ขนมพระพายให้ได้ความอร่อยและเสริมสีสันในชีวิตประจำวันของคุณ
ประวัติของขนมหวานไทย
ขนมหวานไทยมีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ ประเพณีการทำขนมในไทยมีลักษณะที่หลากหลายและประกอบไปด้วยหลายสูตรที่ถ่ายทอดรักษาไปจนถึงวันนี้
ขนมหวานไทยมีรากฐานจากวัฒนธรรมไทยโบราณ ซึ่งมีการใช้วัตถุดิบธรรมชาติที่มีอยู่รอบตัว เช่น แป้งข้าว สาคู และน้ำตาล ในการสร้างขนม จากนั้นประชาชนไทยได้พัฒนาเทคนิคและวิธีการทำขนมให้ละเอียดและอร่อยยิ่งขึ้น
ขนมหวานไทยมีหลากหลายลักษณะทั้งรูปทรงและรสชาติ มีการนำส่วนผสมจากผลไม้ ไข่ข้น กะทิ น้ำหวาน และสมุนไพรมาใช้ในการทำขนม เช่น ขนมบ้าบิ่น ขนมไหว้พระจันทร์ ขนมตาล ขนมครก และอีกมากมาย
การทำขนมหวานไทยไม่เพียงแค่เรื่องการสร้างอาหาร แต่ยังเป็นการสืบสานประเพณีและวัฒนธรรมของชาติไทยอีกด้วย ขนมหวานไทยมีความหลากหลายที่น่าทึ่งและเป็นเอกลักษณ์ของความอร่อยแบบไทยที่โดดเด่นในหลากหลายสาขาทางการทำอาหารในโลก
ส่วนประกอบที่จำเป็น
นี่คือส่วนประกอบที่จำเป็นในการทำขนมพระพาย:
| ส่วนประกอบ | ปริมาณ |
|---|---|
| ไส้ถั่วกวน | |
| ถั่วเขียวเลาะเปลือก | 200 กรัม |
| น้ำตาลทราย | 150 กรัม |
| เกลือป่น | 1/4 ช้อนชา |
| หัวกะทิ | 200 กรัม |
| กะทิโรยหน้า | |
| หัวกะทิ | 250 กรัม |
| เกลือป่น | 1/2 ช้อนชา |
| แป้งข้าวเจ้า | 1 ช้อนโต๊ะ |
| แป้งสีเหลือง | |
| แป้งข้าวเหนียว | 200 กรัม |
| ฟักทอง (น้ำหนักก่อนต้ม) | 150 กรัม |
| น้ำเปล่า | เติมลงไปทีละ 1 ช้อนโต๊ะ จนกว่าจะปั้นได้ |
| แป้งสีม่วง | |
| แป้งข้าวเหนียว | 200 กรัม |
| มันม่วง (น้ำหนักก่อนต้ม) | 150 กรัม |
| น้ำเปล่า | เติมลงไปทีละ 1 ช้อนโต๊ะ จนกว่าจะปั้นได้ |
โปรดทราบว่าปริมาณส่วนประกอบอาจมีการปรับแต่งเพื่อให้ได้รสชาติและความหวานที่ถูกต้องตามความชอบของคุณ ดังนั้นคุณอาจต้องปรับปริมาณตามต้องการและประสบการณ์ในการทำขนมของคุณเอง
ขั้นตอนการทำขนมพระพาย
นี่คือขั้นตอนการทำขนมพระพาย:
- การเตรียมส่วนผสมแป้งข้าว:
- ในอุปกรณ์ที่เหมาะสม, ผสมแป้งข้าว, น้ำตาลทราย, น้ำหอมหวานและน้ำสะอาดเข้าด้วยกัน
- คนส่วนผสมจนเนื้อเรียบและเป็นก้อนเดียวกัน
- จับเป็นลูกเล็กๆ และนำไปหมักไว้สักพัก
- การทำไส้ขนม:
- เริ่มจากการล้างถั่วเขียวและเลาะเปลือก
- นํ้าหนักถั่วเขียวเตรียมไว้ 200 กรัม
- นำถั่วเขียวไปต้มในน้ำเดือดจนสุกและนุ่ม
- ผสมกับน้ำตาลทรายและเกลือป่น
- นํ้าหนักหัวกะทิ 200 กรัมและนํ้าหนักเข้ากัน นํ้าหนักกว่าจะเริ่มเดือนก็จะนํ้าหนักเจริญ ดังนั้นควรสังเกตให้ดี
- การปรุงและทำอาหาร:
- เตรียมหัวกะทิ 250 กรัม และผสมกับเกลือป่น
- ตั้งกระทะขึ้นต้นที่อุ่นอย่างเบา นํ้าหนักแป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะลงไป จนเนื้อแป้งข้าวเจ้าเริ่มสุกและหอม
- การเย็นและการเสิร์ฟ:
- เตรียมถ้วยน้ำเย็นไว้
- เมื่อแป้งข้าวเจ้าสุกและหอมให้ทำการเดือนไปในหม้อกะทิที่เตรียมไว้ ผสมจนเนื้อขนมหนาขึ้นและมีลักษณะเป็นก้อน ตักขึ้นมาโดยใช้ช้อนไม้
- การทำขนมสีเหลือง:
- นํ้าหนักแป้งข้าวเหนียว 200 กรัม
- นํ้าหนักฟักทอง (นํ้าหนักก่อนต้ม) 150 กรัม
- เริ่มที่การต้มฟักทองจนสุกและนุ่ม จากนั้นนำมาตำให้ละเอียด
- ต้มน้ำ และเพิ่มแป้งข้าวเหนียวลงไปทีละ 1 ช้อนโต๊ะจนกว่าจะเป็นส่วนผสมที่สามารถปั้นได้
- การทำขนมสีม่วง:
- นํ้าหนักแป้งข้าวเหนียว 200 กรัม
- นํ้าหนักมันม่วง (นํ้าหนักก่อนต้ม) 150 กรัม
- ต้มมันม่วงจนสุกและนุ่ม จากนั้นนำมาตำให้ละเอียด
- ต้มน้ำ และเพิ่มแป้งข้าวเหนียวลงไปทีละ 1 ช้อนโต๊ะจนกว่าจะเป็นส่วนผสมที่สามารถปั้นได้
ท่านสามารถทำตามขั้นตอนข้างต้นเพื่อสร้างขนมพระพายที่อร่อยและสวยงามได้เองนะคะ!
การเตรียมส่วนผสมแป้งข้าว
การเตรียมส่วนผสมแป้งข้าวเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการทำขนมพระพาย ส่วนผสมแป้งข้าวเป็นฐานสำคัญที่จะทำให้ขนมมีความนุ่มนวลและอร่อยเมื่อทาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรปฏิบัติตามขั้นตอนของการเตรียมส่วนผสมแป้งข้าวอย่างถูกต้องและรอบคอบ
เริ่มต้นโดยการผสมแป้งข้าวกับน้ำตาลทรายและน้ำหอมหวานเข้าด้วยกันในอุปกรณ์ที่เหมาะสม จากนั้นให้คนส่วนผสมจนเนื้อเรียบและเป็นก้อนเดียวกัน เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการสร้างความนุ่มนวลให้แก่ขนมพระพาย
หลังจากนั้นจับเป็นลูกเล็กๆ และนำไปหมักไว้สักพัก เพื่อให้ส่วนผสมมีความเข้มข้นและเติมเต็มกลิ่นหอมอร่อยในขนม การหมักส่วนผสมเป็นขั้นตอนที่เป็นเอกลักษณ์และสร้างรสชาติที่น่าตื่นเต้นให้กับขนมพระพาย
ขั้นตอนการเตรียมส่วนผสมแป้งข้าวจึงเป็นการเตรียมพื้นฐานที่จะนำไปใช้ในขั้นตอนถัดไปในกระบวนการทำขนมพระพาย โดยการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพและปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง จะทำให้ขนมพระพายที่สร้างขึ้นมีความอร่อยและนุ่มนวลตามความคาดหวังของคุณ
การทำไส้ขนม
การทำไส้ขนมเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะให้ขนมพระพายมีรสชาติหวานอร่อยและน่าตื่นเต้นที่สุด เพื่อให้ได้ไส้ที่อร่อยและนุ่มนวล เรามาเรียนรู้ขั้นตอนการทำไส้ขนมพระพายกันเถอะ!
- เตรียมถั่วเขียว:
- นํ้าหนักถั่วเขียวเลาะเปลือกไว้ 200 กรัม
- นํ้าหนักน้ำตาลทราย 150 กรัม
- ต้มถั่วเขียวในน้ำเดือดจนสุกและนุ่ม
- ผสมกับน้ำตาลทรายและเกลือป่น คนให้เข้ากัน
- ผสมไส้กะทิ:
- นํ้าหนักหัวกะทิ 200 กรัม
- นํ้าหนักถั่วเขียวที่ผสมน้ำตาลและเกลือแล้ว เข้ากับกะทิ
- นํ้าหนักเครื่องปรุงรสเข้าไป คือ นํ้าตาลทรายและเกลือป่น คนให้เข้ากันเรียบร้อย
- ทำไส้:
- เตรียมกระทะที่ใช้ต้มไส้
- ตั้งกระทะลงบนเตาและเติมนํ้ากะทิที่ผสมกับไส้ที่เตรียมไว้ นํ้าหนักแป้งข้าวเจ้าลงไปในกระทะ ต้มด้วยไฟอ่อนๆ และคอยคนตลอดจนเนื้อส่วนผสมขาดเนื้อข้นแน่น
- การจัดเสิร์ฟ:
- เมื่อไส้ได้รับการต้มจนสุกและนุ่มแล้ว ให้ตักไส้ออกมาใส่บนชามหรือจาน
- สามารถโรยหน้าด้วยแป้งข้าวเจ้าเพื่อเพิ่มความอร่อยและความหอมหวาน
- เสิร์ฟขนมพระพายที่เตรียมไว้พร้อมชามน้ำเย็นเพื่อสัมผัสความหวานและรสชาติที่อร่อยในทุกๆ คำ
การทำไส้ขนมเป็นขั้นตอนที่ท้าทายแต่เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความอร่อยและอร่อยให้กับขนมพระพาย ความรู้และความสามารถในการจัดการไส้จะทำให้ขนมพระพายที่ท่านทำขึ้นมีคุณภาพและรสชาติที่ดีที่สุด
การปรุงและทำอาหาร
การปรุงและทำอาหารขนมพระพายเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะสร้างรสชาติและกลิ่นหอมอร่อยให้กับขนม ตามนี้คือขั้นตอนการปรุงและทำอาหารขนมพระพาย:
- การเตรียมหัวกะทิ:
- นํ้าหนักหัวกะทิ 250 กรัม
- เตรียมกระทะที่ใช้ต้มหัวกะทิ
- ต้มหัวกะทิกับเกลือป่นในกระทะให้เริ่มเดือนเป็นน้ำกะทิ และคอยคนเพื่อให้กะทิไม่ตั้งแต่งาน
- การทำแป้งเบื้องต้น:
- นํ้าหนักแป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
- นํ้าหนักน้ำเปล่าเติมลงไปเล็กน้อย คอยคนจนแป้งเริ่มเข้ากัน
- ต้มนํ้าเปล่าและเพิ่มแป้งข้าวเจ้าลงไปทีละน้ำหนักเล็กน้อย คอยคนจนแป้งเริ่มเข้ากันและมีลักษณะเป็นก้อน
- การทำขนมสีเหลือง:
- นํ้าหนักแป้งข้าวเหนียว 200 กรัม
- นํ้าหนักฟักทอง (นํ้าหนักก่อนต้ม) 150 กรัม
- เริ่มที่การต้มฟักทองจนสุกและนุ่ม จากนั้นนำมาตำให้ละเอียด
- ต้มน้ำ และเพิ่มแป้งข้าวเหนียวลงไปทีละน้ำหนักเล็กน้อย คอยคนจนแป้งเริ่มเข้ากันและมีลักษณะเป็นก้อน
- การทำขนมสีม่วง:
- นํ้าหนักแป้งข้าวเหนียว 200 กรัม
- นํ้าหนักมันม่วง (นํ้าหนักก่อนต้ม) 150 กรัม
- ต้มมันม่วงจนสุกและนุ่ม จากนั้นนำมาตำให้ละเอียด
- ต้มน้ำ และเพิ่มแป้งข้าวเหนียวลงไปทีละน้ำหนักเล็กน้อย คอยคนจนแป้งเริ่มเข้ากันและมีลักษณะเป็นก้อน
โดยส่วนการปรุงและทำอาหารขนมพระพายเป็นขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการนำส่วนผสมแป้งข้าวมาทำให้เป็นส่วนที่เหมาะสมในการจัดเสิร์ฟ หากปฏิบัติตามขั้นตอนดังกล่าวให้ถูกต้อง ขนมพระพายที่ได้จะมีรสชาติอร่อยและกลิ่นหอมของกะทิและไส้ที่น่าคาดหวัง
การเย็นและการเสิร์ฟ
หลังจากที่ไส้ขนมพระพายได้รับการต้มจนสุกและนุ่มแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการเย็นและการเสิร์ฟขนมพระพาย ขั้นตอนเหล่านี้เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่จะสร้างความอร่อยและสวยงามให้กับขนมพระพายที่ท่านทำขึ้นมาเอง
เมื่อไส้ขนมพระพายได้รับการต้มให้สุกและนุ่มแล้ว ให้นำไส้ออกมาใส่บนชามหรือจานที่เตรียมไว้ สามารถเลือกใช้ชามที่มีลวดลายหรือดีไซน์สวยงามเพื่อเพิ่มความเรียบหรูแก่ขนมพระพายได้
หากต้องการให้ขนมพระพายมีรสชาติที่หวานและหอมหวานมากขึ้น สามารถโรยแป้งข้าวเจ้าลงไปบนไส้ขนมพระพายที่อยู่บนชามหรือจาน เพื่อเพิ่มรสชาติของขนมพระพายให้เข้มข้นขึ้น การโรยแป้งข้าวเจ้าบนขนมพระพายเป็นวิธีการเพิ่มความอร่อยและความเข้าคล่องในทุกๆ เส่วนของขนม
เสิร์ฟขนมพระพายที่เตรียมไว้พร้อมกับชามน้ำเย็นเพื่อเพิ่มความสดชื่นและความหวานให้กับปากของคนที่ทาน การเสิร์ฟขนมพระพายด้วยน้ำเย็นยังช่วยลดความหวานภายในปากจากขนมพระพายเองด้วย ทำให้รสชาติและความหวานของขนมพระพายมาออกมาเป็นอย่างดีและสมดุลกับความรู้สึกที่รับมาจากการทานขนมนี้
ทิปส์เพื่อความอร่อยที่สุด
เพื่อให้ขนมพระพายมีความอร่อยที่สุดและเพิ่มความพิเศษในการทาน นี่คือทิปส์ที่คุณสามารถทำเพื่อเพิ่มความสนุกและความอร่อยให้กับการสัมผัสกับขนมพระพาย:
- ลองรสชาติที่หลากหลาย: ไม่เพียงแค่ทานขนมพระพายสีเขียวเท่านั้น ลองกินขนมสีเหลืองและขนมสีม่วงเช่นกัน เพื่อให้ได้รสชาติที่หลากหลายและสนุกสนานกับการค้นพบความแตกต่างของรสชาติ
- เสิร์ฟพร้อมกับเครื่องปรุง: สามารถเสิร์ฟขนมพระพายพร้อมกับเครื่องปรุงรสเสมือนน้ำตาลทราย, ซอสมะเขือเทศหรือน้ำมะนาวเพื่อเพิ่มความหวานหรือความเปรี้ยวตามชอบ
- เพิ่มความหวานเพิ่มเติม: หากคุณชื่นชอบความหวานมากขึ้น ลองโรยน้ำตาลทรายหรือน้ำมันหวานบนขนมพระพายเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความอร่อยและความหวานให้กับขนม
- ร่วมมือทานแบบเพื่อนแก่นสายตามเพื่อน: ทานขนมพระพายร่วมกับเพื่อนหรือครอบครัว การสัมผัสความอร่อยและแบ่งปันประสบการณ์นี้จะทำให้การทานขนมพระพายมีความสนุกสนานมากขึ้น
- ลองรับประสบการณ์ใหม่ๆ: ลองเลือกใช้ไส้หรือส่วนผสมอื่นๆ ที่ไม่เคยลองมาก่อน เช่น ผสมไส้กะทิกับเม็ดถั่วแบบที่คุณชื่นชอบ เพื่อสร้างรสชาติที่ทันสมัยและไม่ซ้ำซาก
ด้วยทิปส์เหล่านี้ คุณสามารถเพิ่มความอร่อยและความสนุกในการทานขนมพระพายได้อย่างแน่นอน ลองสร้างประสบการณ์ทานขนมพระพายที่มีความพิเศษและเป็นที่จดจำไปด้วย!
รูปแบบต่างๆ ของขนมพระพาย
ขนมพระพายมีรูปแบบต่างๆ ที่น่าสนใจและสวยงาม ทุกแบบมีเอกลักษณ์และสีสันที่แตกต่างกันไป นี่คือรูปแบบต่างๆ ของขนมพระพายที่คุณอาจพบเจอ:
- ขนมพระพายสีเขียว: รูปแบบที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือขนมพระพายสีเขียว ซึ่งถูกสร้างจากแป้งข้าวเหนียวและไส้ถั่วเขียว มีรสชาติหวานและกลิ่นหอมอร่อยของกะทิ สีเขียวสดชัดเป็นเอกลักษณ์ของขนมพระพายแบบนี้
- ขนมพระพายสีเหลือง: รูปแบบขนมพระพายสีเหลืองมีลักษณะที่อ่อนโยนและนุ่มนวล ส่วนผสมของขนมเนื้อฟักทองให้ความหวานและเปรี้ยวเข้ากันอย่างลงตัว
- ขนมพระพายสีม่วง: ขนมพระพายสีม่วงมีความมันตัว ที่มาจากการใช้มันม่วงเป็นส่วนผสม มีรสชาติหวานและความเข้มข้น สีม่วงเข้มสดชัดทำให้ขนมน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
- ขนมพระพายสีครีม: ขนมพระพายสีครีมเป็นรูปแบบที่มีแนวทางใกล้เคียงกับขนมพระพายสีเขียว แต่ไส้อาจเป็นครีมหรือนมข้นที่มีรสชาติหวานนุ่มนวล สร้างความอร่อยและสดชื่นให้กับขนมพระพาย
- ขนมพระพายแบบผสมสี: รูปแบบนี้มีการผสมสีเขียนเข้าไปในขนมพระพาย เช่น การใช้สีสันจากวัตถุประสงค์ธรรมชาติ เพื่อให้ขนมดูน่าสนใจและสดใสยิ่งขึ้น
- ขนมพระพายแบบทรงพลัง: ขนมพระพายรูปแบบนี้มีการทำให้มีความหนักมากขึ้น สร้างความพิเศษในทรงพลังและความแตกต่างจากรูปแบบทั่วไป
- ขนมพระพายสไตล์โมเดิร์น: ขนมพระพายสไตล์โมเดิร์นอาจมีการนำเอาแนวคิดโมเดิร์นมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบรูปแบบขนม ทำให้ขนมพระพายดูทันสมัยและสะดุดตา
ผ่านรูปแบบที่หลากหลายนี้ คุณสามารถเพิ่มความสนุกและความพิเศษให้กับการทานขนมพระพายได้ ลองเลือกตามความชื่นชอบและความต้องการของคุณเองเพื่อสร้างประสบการณ์การทานที่น่าทึ่งและน่าจดจำ
สรุป
สุดท้ายนี้ เราได้รู้จักกับขนมพระพายที่เป็นของหวานแบบดั้งเดิมของไทยที่มีประวัติศาสตร์และความเป็นมาอันยาวนาน เราได้รับรู้ถึงวิธีการทำขนมพระพายที่มีขั้นตอนที่ซับซ้อนแต่มีความอร่อยและหอมหวานอันนุ่มนวลอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ยังได้รับทิปส์เพื่อเพิ่มความอร่อยและสนุกในการทานขนมพระพายด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องปรุงรสหรือการเลือกลองรสชาติที่หลากหลาย การทำขนมพระพายไม่เพียงแค่เป็นการสร้างของหวานเพื่อการทาน เเต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีและวัฒนธรรมไทยที่ควรได้รับการสืบทอดต่อไปในรุ่นหลังด้วย
FAQs
ขนมพระพายทำไมถึงมีสีต่างๆ?
ขนมพระพายมีสีต่างๆ เนื่องจากใช้ส่วนผสมที่แตกต่างกัน เช่น การใช้ฟักทองหรือมันม่วงทำให้ขนมมีสีสันที่สวยงามและน่าสนใจตามสีของส่วนผสมนั้น นอกจากนี้ยังมีการใช้สีธรรมชาติเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับขนมพระพายเช่นกัน
การเก็บรักษาขนมพระพายอย่างไรเพื่อให้ยังคงความอร่อย?
เพื่อให้ขนมพระพายยังคงความอร่อยและความสดชื่น ควรเก็บรักษาในที่ที่แห้งและไม่มีความชื้น สามารถใช้ซองพลาสติกหรือภาชนะที่ปิดสนิทเก็บขนมได้ เพื่อป้องกันการเปียกและเป็นรสชาติ
ขนมพระพายมีประวัติและตำนานอะไรบ้าง?
ขนมพระพายมีประวัติและตำนานที่มาจากการนำมาใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรม มักเห็นใช้ในงานพิธีบวงสรวงและพิธีที่มีความเชื่อเรื่องศาสนา
สามารถเพิ่มรสชาติให้กับขนมพระพายได้อย่างไร?
สามารถเพิ่มรสชาติให้กับขนมพระพายได้โดยการเสิร์ฟพร้อมกับน้ำตาลทราย, ซอสมะเขือเทศ, หรือน้ำมะนาวเพื่อเพิ่มความหวานหรือความเปรี้ยวตามชอบ
ขนมพระพายมีค่าโภชนาการอะไรบ้าง?
ขนมพระพายมีค่าโภชนาการที่มาจากแป้งข้าวเหนียวและไส้ถั่วเขียว มีโปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, และไขมันอยู่ในป
