นาขั้นบันได “ป่าบงเปียง” ผืนนาเขียวขจี บรรยากาศเงียบสงบ

นาขั้นบันได “ป่าบงเปียง” เป็นที่หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจในประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ในผืนนาเขียวขจีที่มีบรรยากาศเงียบสงบและสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ ที่นี่เต็มไปด้วยความสงบและความสวยงามของธรรมชาติที่เหนือกว่าคำบรรยาย

1. ประวัติความเป็นมาของนาขั้นบันได

นาขั้นบันได “ป่าบงเปียง” เกิดขึ้นจากการรวมตัวของคนในชุมชนท้องถิ่นที่มีความชื่นชอบในการเก็บเกี่ยวข้าวและเลี้ยงสัตว์ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่สูงและคุณภาพดีทำให้นาขั้นบันไดกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักในท้องถิ่นและต่างประเทศ

2. บรรยากาศและวิวสวยงามของนาขั้นบันได

นาขั้นบันได “ป่าบงเปียง” เป็นที่ตั้งอยู่ในบริเวณผืนนาเขียวขจีที่มีการจัดสร้างอย่างลงตัว บรรยากาศที่เงียบสงบและร่มรื่นจากพืชพรรณต่างๆ ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ความสงบและผ่อนคลายใจในขณะที่ท่องเที่ยวที่นี่

3. กิจกรรมท่องเที่ยวในนาขั้นบันได

3.1 เที่ยวชมนาขั้นบันได

นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นในนาขั้นบันไดและเพลิดเพลินกับการชมวิวที่สวยงามของธรรมชาติได้อย่างอิสระ การเดินเล่นในนาขั้นบันไดสามารถช่วยให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสนุกสนานกับการสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่

3.2 สัมผัสกับชีวิตชาวนา

นาขั้นบันไดเป็นที่ตั้งอยู่ของชุมชนชาวนาท้องถิ่น นักท่องเที่ยวสามารถมีโอกาสสัมผัสและเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวนาได้อย่างใกล้ชิด การเข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับการเกษตรและการประมงเป็นต้น จะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ

4. อาหารและของที่ระลึก

เมื่อเยี่ยมชมนาขั้นบันได “ป่าบงเปียง” ไม่ควรพลาดที่จะสัมผัสกับอาหารท้องถิ่นที่อร่อยและเป็นเอกลักษณ์ อาหารท้องถิ่นที่นี่จะมีรสชาติที่เข้มข้นและอร่อย นอกจากนี้ยังมีของที่ระลึกที่สามารถซื้อเป็นของขวัญให้กับคนที่คุณรักได้อีกด้วย

5. การเข้าถึงและการเดินทางไปยังนาขั้นบันได

เพื่อเข้าถึงนาขั้นบันได “ป่าบงเปียง” นักท่องเที่ยวสามารถใช้รถส่วนตัวหรือรถบัสเพื่อเดินทางมายังที่นี่ การเดินทางมายังนาขั้นบันไดนั้นจะใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น และมีการเดินทางไปยังสนามบินใกล้ที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางมาจากต่างประเทศ

สรุป

นาขั้นบันได “ป่าบงเปียง” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศเงียบสงบและสวยงามที่ตั้งอยู่ในผืนนาเขียวขจี ที่นี่เต็มไปด้วยความสงบและความสวยงามของธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเดินทางในนาขั้นบันได สัมผัสกับชีวิตชาวนาและสัมผัสกับอาหารท้องถิ่นที่อร่อยได้อย่างสุดฟิน อย่างที่เห็นนี้ นาขั้นบันได “ป่าบงเปียง” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมายังประเทศไทย

FAQs

นาขั้นบันได “ป่าบงเปียง” ตั้งอยู่ที่ไหน?

นาขั้นบันได “ป่าบงเปียง” ตั้งอยู่ในผืนนาเขียวขจีที่ประเทศไทย

นาขั้นบันได “ป่าบงเปียง” เปิดให้เข้าชมตลอดทั้งปีหรือไม่?

ใช่ เปิดให้เข้าชมนาขั้นบันได “ป่าบงเปียง” ตลอดทั้งปี

มีกิจกรรมใดบ้างที่สามารถทำได้ในนาขั้นบันได “ป่าบงเปียง”?

นาขั้นบันได “ป่าบงเปียง” มีกิจกรรมเช่นการเดินเล่นในนาขั้นบันได สัมผัสชีวิตชาวนา และเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่น

มีที่พักอาศัยใกล้เคียงนาขั้นบันได “ป่าบงเปียง” หรือไม่?

ใช่ ในพื้นที่ใกล้เคียงนาขั้นบันได “ป่าบงเปียง” มีที่พักอาศัยที่สะดวกสบายให้เลือกสรร

วิธีการเดินทางไปยังนาขั้นบันได “ป่าบงเปียง” อย่างไร?

นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังนาขั้นบันได “ป่าบงเปียง” โดยใช้รถส่วนตัวหรือรถบัสในการเดินทาง

นาขั้นบันได “ป่าบงเปียง” ผืนนาเขียวขจี บรรยากาศเงียบสงบ | วันใหม่ไปไหน [VIDEO]

45.358 lượt xem 25 thg 11, 2022 ป่าบงเปียง
#ป่าบงเปียง #แม่แจ่ม #เชียงใหม่
ผืนนาเขียวขจี บรรยากาศเงียบสงบ 🍃

ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกที่ลอยตามสายลม
พักผ่อนกินอาหารท้องถิ่นท่ามกลางทุ่งนา
กลางคืนนอนหน้าระเบียงดูดาวพร้อมลมหนาว

#ช่วงเวลาแต่ละเดือนของการชมข้าวในนา
มิ.ย. – ก.ค. เริ่มปลูกข้าว
ส.ค. – ก.ย. ทุ่งนาสีเขียวขจี
ต.ค.- พ.ย. ทุ่งข้าวออกรวง สีเหลืองทอง
.
.
#ราคา
🟩 คนละ 700 บาท รวมอาหารเช้า-เย็น
🟩 หมูกระทะ ชุดละ 300 บาท
#สิ่งอำนวยความสะดวก
🟩 มีลานจอดรถ (จอดรถที่บ้านทางเข้าบ้านเปียงนา)
🟩 บ้านพักไม่มีไฟฟ้า มีไฟโซล่าเซลล์ 1 ดวง
🟩 มีสัญญาณโทรศัพท์
.
.
#ติดต่อที่พักได้ที่ ☎
โฮมสเตย์ พี พือ
โทร 📞 0860278320
📍 พิกัด : https://goo.gl/maps/RKSj3XDntYTpZj1r6
——————————————
00:00 เปิดคลิป
01:46 การเดินทาง
03:51 #น้ำตกห้วยทรายเหลือง
05:47 ถึงแล้ว ป่าบงเปียง
08:23 เดินเล่นชมนาขั้นบันได
10:33 ทานมื้อเย็น
11:39 สวัสดีตอนเช้า
12:47 ภาพบรรยากาศมุมสูงยามเช้า
14:16 ธรรมดา
16:48 ภาพบรรยากาศระหว่างทางกลับ
17:16 EP. ต่อไป
——————————————
#รีวิวที่พัก #รีวิวที่เที่ยว #เชียงใหม่ #เที่ยวเชียงใหม่ #วันใหม่ไปไหน

เนื้อหาของวิดีโอ นาขั้นบันได “ป่าบงเปียง” ผืนนาเขียวขจี บรรยากาศเงียบสงบ | วันใหม่ไปไหน

ฉันมา ทำอะไร เราเชื่อว่าทุกคนเคยมีประสบการณ์การเดินทาง โคตรแย่เลยไม่เคยลืมมันได้ ปีที่แล้วก่อน ระบาด covid ก็ได้เดินทางไปที่อำเภอแม่แจ่ม เล็กๆที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก รักมากนะ เพื่อที่จะเข้าไปเรียน สถานที่ท่องเที่ยวแห่ง มีชื่อว่าบ้านป่าบงเปียง และสภาพการเดินทาง ทางไปบ้านป่า 3 ปีที่แล้วก็เป็นอย่างที่เห็น เข้าถนนเข้าหมู่บ้านยังทำไม่ ไม่เสร็จตอนนั้นจำได้ว่า เป็นนักท่องเที่ยวมือใหม่ แปลไม่ได้ จากข้อมูลการเดินทางไปเลย กลอนสายการบิน ถามทางชาวบ้านแถวนั้นเอา ชาวบ้านบางคนก็บอกว่าทางนั้นไปได้สบายๆ บางคนบอกว่าต้องไปอีกทางนึง แล้วตอนนั้นสัญญาณโทรศัพท์ ก็ไม่มีซะด้วยก็เลยลัดเลาะไปตามเส้นทางที่ชาวบ้านแนะนำ แต่เราก็ขับไปจนถึงบ้านป่าบงเปียงนะคะไปถึงก็มืดแล้วที่พักที่จองเอาไว้ก็มาโดนคนอื่น น่าไปสุดท้ายต้องขับรถมอเตอร์ไซค์กลับมาหาที่พักในเมืองแม่แจ่มหลังจากนั้นเดือนนึงก็ได้เดิน ทางเข้าไปบ้านป่าบงเปียงอีกครั้ง แต่เป็นช่วงที่ชาวบ้านได้ทำการเก็บเกี่ยวข้าวไปเกือบหมดแล้วจนวันนี้แล้วได้ขนกลับมาที่นี่อีกครั้ง นาขั้นบันไดป่าบงเปียงในฤดูฝน การเดินทางของเราครั้งนี้เราใช้รถส่วนตัวขับจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร ระหว่างทางจะต้องผ่านด่านตรวจทั้งหมด 2 จุดจุดแรกให้เราขับผ่านไปได้เลยค่ะบรรยากาศระหว่างทาง ก็สบายสบายมีความเขียวชอุ่มของต้นไม้ให้ชมตลอดถนนทั้งสายมีฝนตกหนักและหมอกลง เป็นระยะระยะ เดินทางมาถึงจุดตรวจที่ 2 เจ้าหน้าที่จะให้เราจอดรถลงมาซื้อบัตรเข้าชมอุทยานค่ะ พัทยาเหนือ 2 คนครับ สำหรับค่าบัตรเข้าชมอุทยานเขาใหญ่ 60 บาทเด็ก 30 บาทรถยนต์ 30 10 บาทและรถจักรยานยนต์ 20 บาทค่ะ ซื้อบัตรเสร็จแล้วก็ให้เราเลี้ยวซ้ายไปแม่แจ่มตรงจุดตรวจที่ 2 ตรงนี้เลยค่ะจากจุดตรวจที่ 2 เข้า ไปถึงบ้านป่าบงเปียงจะมีระยะทางทั้งหมด 10 กิโลเมตรเป็นระยะทางถนนเล็กๆ 2 เลน เส้นทางนี้จะต้องขับรถอย่างระมัดระวังเพราะทางโค้งค่อนข้างเยอะยิ่งฝนตกแบบนี้จะมีหมอกหนา ลงเป็นบางช่วงอาจทำให้เรามองไม่เห็นรถที่กำลังส่วนทางมาได้วิธีที่เราพูดในคลิปบ่อยมากเรื่อง การขับรถขึ้นดอยก็คือการลดกระจก ปิดแอร์และบีบแตรในช่วงโค้งหักศอก เพื่อเป็นสัญญาณเตือนรถที่กำลังลงจากเขามานั่นเองและการลดกระจกลง นอกจากจะได้ชมวิวข้างทางสวยๆแล้วก็จะทำให้เราได้ยินเสียงแตรของรถที่กำลังส่วนมาด้วยค่ะ การเข้าไปที่พักเราก็ยังพอมีเวลาให้เที่ยวเล่นอีกหน่อยระหว่างทางแล้วก็แวะ ไปที่น้ำตกห้วยทรายเหลือง ทางเดินเข้าไปน้ำตก ก็จะเดินไปง่ายๆแบบนี้เลยไม่มีทางฉันค่ะ นี่นะคะน้ำใสมากเลยค่ะ เดินเข้าไปก็จะได้ยินเสียงน้ำตกดังขึ้นเรื่อยๆน้ำตกห้วยทรายเหลืองจะมีขนาดกลางไม่เล็กไม่ใหญ่ จนเกินไป แต่ก็มีน้ำไหลแรงแบบนี้ตลอดทั้งปีเลยซึ่งสายน้ำตกจะไหลจากหน้าผาลงมาเป็นชั้นๆอย่าง สวยงามค่ะ ระหว่างที่กำลังเดินกลับไปขึ้นรถเราก็แวะมาชมลำธารที่ไหลลงมาจาก น้ำตกตรงนี้คือ สวยไม่แพ้กันเลยค่ะน้ำใสไหลเย็นสด ชื่นมากๆ เราชอบมุมนี้มากกว่าด้านบนนะคะ เพราะมันดูร่มรื่นและผ่อนคลายดี ซึมซับบรรยากาศน้ำตกกันเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาไปที่พักของเรากันแล้วค่ะ มาถึงตรงป้ายนี้ที่พักของเราจะอยู่ทางซ้ายมือ เราก็จะเลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย ขับมาจนถึงป้ายบ้านเปียงนา ก็ขับเข้าไปจอดรถในนี้เลยค่ะ เรามาถึง ถึงประมาณบ่าย บรรยากาศคือ ดีมากว้าวมากๆในที่สุดฝันก็เป็นจริงหลังจากที่พลาดไปหลายครั้งเราก็มาอยู่ตรงนี้แล้วก็พูด เรามาวันที่ 12 กันยายน บอกเลยว่าช่วงเดือนนี้คือจองยากมาก ที่พักที่มีเป็นหน้าเพจ facebook คือเต็ม ทุกหลังเลยเราก็เลยเข้าไปโพสต์หาที่พักในกลุ่ม Facebook ป่าบงเปียง ก็ได้ที่พักที่นี่มาเลยค่ะ มีชื่อว่า People Go Home Stay เป็นกระท่อมเล็กๆที่มีระเบียงยื่นออกมา ที่พักที่นี่จะมีลักษณะคล้ายกันแทบทุกหลังเลยค่ะ มีราคา 700 บาท ต่อคนเท่ากันทุกหลัง ราคานี้สะดวกมาหา อาหารมื้อเช้าและเย็นแล้วด้วย ภายในกระท่อมก็จะมีที่นอนหมอน ลงให้แบบเรียบง่าย มีไฟโซล่าเซลล์ให้เพียง 2 ดวงขึ้นในห้องนอนกับในห้องน้ำ มองออกไปนอกระเบียงก็จะเห็นทุ่งนาสีเขียวสดกว้างไกลสวยงามดังภาพวาดเลยค่ะ บ้านป่าบงเปียงมีชาวบ้านส่วนใหญ่ เป็นชาวปกากะญอ ชื่อหมู่บ้านมีชื่อเรียกค่ะ ชื่อไม้ไผ่ เรียกว่าไม้บง เขียนคำว่าเปรียว ฟันขาว ซึ่งในอดีตที่นี่มีไม้ไผ่ขึ้นอยู่กับ เป็นจำนวนมากเป็นดังป่าไผ่ในท่ามกลางที่ราบสูง ปัจจุบันนั้นเป็นแหล่งทำนาขั้นบันไดที่มีวิวทิวทัศน์อันสวยงามเป็นที่นิยมของ นักท่องเที่ยวและผู้รักการถ่ายภาพ เป็นจำนวนมากซึ่งในนั้นก็คือพวกเราด้วย ของการมาที่นี่คือการได้เห็นบรรยากาศการทำหน้าที่เปลี่ยนไปในแต่ละเดือนการท่องเที่ยวที่ป่าบงเปียง เป็น 3 ช่วงค่ะ คือหน้าดำ สายเขียว เราและนาย ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมเป็นช่วงนาดำ ต้นข้าวยังเป็นต้นกล้าทำให้สามารถมองเห็น เห็นเพื่อนน้ำของ ท้องนาเดือนกันยายนจนถึงต้นเดือนตุลาคม เป็นช่วงนาเขียวต้นข้าวจะเขียวค่ะ คดีเต็มท้องทุ่งแบบ วันนี้เลยค่ะ ส่วนช่วงปลายเดือนตุลาคมเป็นช่วงนานหรือยัง สีเหลืองจากรวงข้าวต้องมาช่วงนี้เลยค่ะ พาราได้ส่งโดนไปสำรวจรอบๆ สนใจกันว่า อยากไปเดินเล่นที่สะพานไม้ไผ่ ซึ่งเป็นนาขั้นบันไดอีกฝั่งนึง จริงๆที่ป่าบงเปียงเราจะพักที่ไหนก็ได้เลย บรรยากาศ ไม่ต่างกันมาก เราสามารถเดินทาง ถ่ายภาพได้ทั่วบริเวณเลยค่ะแข่งตอนนี้เราก็กำลังเดินลัดเลาะไปตาม คันนาหวังว่าจะมีทางข้ามไปอีกฝั่งนึง แต่แล้วก็ต้องเดินขึ้นไปทางถนนปกติ ชาวบ้านบอกว่า ทางข้างหน้าที่จะเดินข้ามไปนาน มันจะเดินแยกสำหรับ ท่องเที่ยวที่ไม่รู้เส้นทางของเรา แล้วกว่าจะเดินไปถึง จะข้ามพอดีค่ะ เดินมาถึงอีกฟากนึงแล้วได้ยินเสียงน้ำไหลบรรเลงมาแต่ไกลที่นี่คือหัวใจนักเดินทาง เราได้ดีเลยล่ะ ดอกดาวกระจายสีเหลืองตัดกับทุ่งนาและวิวภูเขาช่างเข้ากันได้ดีมากๆ เรามุ่งหน้าไปที่สะพานไม้ไผ่ที่ทอดยาวอยู่กลาง บรรยากาศยามเย็นวันนี้มีแสงแดดอ่อนๆ และดวงอาทิตย์ที่คล้อยตามแสงกระทบต้นข้าว เพิ่มความโรแมนติกโดยไม่รู้ตัว พระอาทิตย์ตกวันนี้โคตรสวยเลยเว้ยแก ในวันที่เราไม่ได้คาดหวังอะไรมากมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นเสมอเลยเนอะ บอกแล้วใช่ไหมเอารถมาแล้วอ่ะ ไม่นานเดี๋ยวก็เดินกลับไปฝั่งที่พักของเราเพราะเจ้าของที่พักโทรมาบอกเราว่า กับข้าวมื้อเย็นพร้อมเสิร์ฟแล้ว มื้อเย็นของ ของเราวันนี้ก็จะมีผัดบวบหมูสับ ไข่เจียว แกงจืดหมูสับวุ้นเส้นและน้ำพริกปลากระป๋องพร้อม ผักรวมที่เสริม มาคู่กัน กลิ่นหอมๆของกับข้าวทำให้ความเห็น หิวทวีคูณเพิ่มขึ้น ไปมาหลายที่กับข้าวที่นี่คือดีเลยค่ะ ให้เยอะแถมอร่อยเต็ม 10 และไม่หักเป็นอีกหนึ่งอย่างที่เราไม่ได้คาดหวังแต่เกินคาดมากๆ แล้ว ทานข้าวเสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำมานอนดูหนังชิว ห้องน้ำก็สะอาดนะคะสบายๆเลย ก่อนนอนก็มาถ่ายดาวเล่นกันสักหน่อย จะได้ถ่ายน้องช้างมาให้เห็นทั้งตัวแล้วค่ะทุกคนเสียดายที่วันนี้ฟ้าค่อนข้างปิดแต่แค่นี้ก็สวยมากแล้วนะ คืนนี้ฝันดีนะคะ ตื่นเช้ามาพร้อมกับทะเลหมอกใกล้ๆ ทะเลหมอกตรงหน้าไหลมาจากตัวเมืองแม่แจ่ม ค่อยๆแผลสด คุ้มทุ่งนาสีเขียว สีขาวแทน ของที่พักก็ยกกระติกน้ำร้อนกับกาแฟโอวัลตินมาให้ ดาวชงโอวัลตินร้อน นั่งจิบไปท่ามกลาง สายหมอกพร้อมกับฟังเสียงดนตรีธรรมชาติ ที่ดูเหมือนจะมีจักจั่นน้อยเป็นต้นเสียง บอกข่าวค่อยๆจางไปกับ พระอาทิตย์ยามเช้า ที่แทบจะลอดผ่านเมฆหมอกมาไม่ได้ก็พยายามเก็บ คำยามเช้านี้ นี้ไปให้ได้มากที่สุด จากภาพมุมสูงจะเห็นเลยว่าอยู่ๆเราก็ค่อยๆถูกหมอกขาว ความลับเอาไว้ทุกทางอีกครั้ง บรรยากาศ ของที่นี่เปลี่ยนแปลงไปตลอด แค่เพียงเสี้ยววินาทีเดียวก็เปลี่ยนได้ นี่แหละความสุขของการเที่ยวธรรมชาติคือการได้เฝ้ามองการเปลี่ยน มาชาติที่ไม่เหมือนกัน สักวันค่ะ คุณยายท่านหนึ่ง เป็นชาวบ้านแถวนี้ แก้ปากพวกเสื้อกระเป๋ามาขายให้ เที่ยวที่มาพักที่ป่าบงเปียง เราก็ช่วยอุดหนุนกระเป๋า สะพายเล็กๆ 2 ใบค่ะ ถึงจะมีรอยปากเกร็ดที่เบี้ยวมาบ้าง แต่ก็น่ารักดีค่ะถือว่ามันกระจายรายได้ให้กับ พื้นที่นะ ได้เวลามื้อเช้าของเราแล้วค่ะ เป็นข้าวต้มหมูสับ ทำกับยำไข่ต้ม ทุกอย่างก็อร่อยเกินคาดเหมือนเดิมค่ะ อิ่มท้องแล้วก็ลงไปเดินเล่นดูวิถีชีวิตของชาวนาที่นี่กันค่ะ เรามักจะได้ยินคำพูดที่บอกว่า สบายเลยครับ สบายเลยค่ะอยู่บ่อยๆ นี่ไงมีปูนาด้วยค่ะ เดินลงมาตรงนี้รู้สึกว่ามองเห็นวิวได้กว้างขึ้น ตอนนี้ก็มีผัว ฝนตกปรอยและเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ เราก็เลยปักหลัก อยู่ที่กระท่อมหลังนี้สักพัก มาเที่ยวหน้าฝนก็ดีเหมือนกันนะ แต่ไม่ว่าฤดูไหน กะว่าผู้คนที่เดินทางมา ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ พบสิ่งแปลกใหม่อะไรหรอก พวกเขาเพียงอยากให้ทุกอย่าง คงเดิมควร 3 เท่าที่คาดหวังว่าจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าและตกในตอนเย็น บ๊ายบายป่าบงเปียงที่รัก