ขนมครกเป็นของหวานที่มีประวัติยาวนานในประเทศไทย แต่วันนี้เราจะพาคุณไปสู่ครัวสิงคโปร์เพื่อรับชมสูตรขนมครกสิงคโปร์สูตรพิเศษที่มีกลิ่นหอมของใบเตยและความนุ่มนวลของข้าวเจ้าที่ยิ่งให้ความพิเศษในทุกเส้นเมล็ดของขนมนี้ หากคุณคือคนรักขนมครกและต้องการสร้างประสบการณ์อร่อยใหม่ ๆ ให้ลองทำตามสูตรนี้ดูนะครับ!
ขนมครกสิงคโปร์สูตรนี้หอมใบเตยและนุ่มข้ามคืน|ครัวปั้นแป้ง channel [VIDEO]
สูตรขนม🍀🍀
แป้งอเนกประสงค์ 170 กรัม
แป้งเค้ก 40 กรัม
แป้งมัน 80 กรัม
ผงฟู 1/2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1/2 ช้อนชา
ไข่ไก่เบอร์3 2 ฟอง
น้ำตาล 200 กรัม
กะทิ 200 กรัม
น้ำใบเตย 250 กรัม
น้ำมันพืช 50 กรัม
นมสด 50 กรัม
วัตถุดิบสำหรับขนมครกสิงคโปร์
วัตถุดิบ | ปริมาณ |
---|---|
แป้งอเนกประสงค์ | 170 กรัม |
แป้งเค้ก | 40 กรัม |
แป้งมัน | 80 กรัม |
ผงฟู | 1/2 ช้อนโต๊ะ |
เกลือ | 1/2 ช้อนชา |
ไข่ไก่เบอร์3 | 2 ฟอง |
น้ำตาล | 200 กรัม |
กะทิ | 200 กรัม |
น้ำใบเตย | 250 กรัม |
น้ำมันพืช | 50 กรัม |
นมสด | 50 กรัม |
ขั้นตอนการผสมส่วนผสมหลัก
การผสมส่วนผสมหลักของขนมครกสิงคโปร์เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการสร้างรสชาติและความนุ่มนวลของขนมให้ได้อย่างลงตัว ในขั้นตอนนี้คุณจะต้องผสมส่วนผสมหลักของขนมครกอย่างรอบคอบและระมัดระวังเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ในอ่างครัวใหญ่ คุณควรเริ่มจากการผสมแป้งอเนกประสงค์และน้ำตาลเข้าด้วยกัน โดยการผสมนี้จะช่วยให้ขนมครกมีรสหวานและหอมมันจากน้ำตาลทรายและใบเตย หลังจากนั้น คุณควรเพิ่มน้ำมะพร้าวเล็กน้อยในแต่ละครั้งและคนให้เข้ากันอย่างดี น้ำมะพร้าวจะช่วยให้ขนมครกมีความนุ่มและรสชาติที่หอมหวานจากกะทิและน้ำมะพร้าวเข้ากันได้ดีขึ้น
หลังจากนั้น คุณควรเพิ่มใบเตยสดที่ถูกหั่นเป็นชิ้นเล็กลงไปและคนให้เข้ากันให้ทุกส่วนผสมเป็นสีเขียวอ่อน ใบเตยจะเป็นส่วนสำคัญที่สร้างกลิ่นหอมหวานและรสชาติพิเศษให้กับขนมครกสิงคโปร์ ในขั้นตอนนี้ ควรระมัดระวังในการคนเพื่อให้ส่วนผสมผสานกันอย่างสมบูรณ์และเป็นเนื้อเนียนอย่างดี เมื่อทุกส่วนผสมผสานเข้ากันอย่างลงตัวแล้ว คุณก็พร้อมสำหรับขั้นตอนถัดไปของการทำขนมครกสิงคโปร์แล้วครับ
การผสมส่วนผสมหลักเป็นขั้นตอนสำคัญที่สร้างความพิเศษในขนมครกสิงคโปร์ คุณควรทำตามขั้นตอนด้วยความรอบคอบและคร่าวครัดเพื่อให้ขนมครกออกมาอร่อยและนุ่มนวลในทุกชิ้น
ขั้นตอนการเตรียมกระทะ
ขั้นตอนการเตรียมกระทะเป็นขั้นตอนสำคัญในการทำขนมครกสิงคโปร์ เพราะมันมีผลต่อการทำให้ขนมครกสุกอย่างงสม ดังนั้นคุณควรปฏิบัติตามขั้นตอนนี้อย่างรอบคอบ:
- นำกระทะมาวางบนเตาและเปิดไฟด้วยไฟกลางความร้อน คุณควรรอให้กระทะร้อนอย่างเพียงพอและแต่ละส่วนบนกระทะมีโอกาสเท่ากัน
- เมื่อกระทะร้อนพร้อมแล้ว คุณควรคลุกกระทะด้วยน้ำมันพืชเล็กน้อย นี้จะช่วยป้องกันขนมครกจากการติดตัวกับพื้นกระทะและให้ความกรอบ
- คุณสามารถใช้กระดาษชำระแทนการคลุกกระทะด้วยน้ำมันได้หากคุณต้องการลดความมันในขนมครก
- หลังจากเตรียมกระทะให้พร้อมแล้ว คุณสามารถเริ่มทำขนมครกตามขั้นตอนถัดไปได้เลย การเตรียมกระทะที่เรียบร้อยจะช่วยให้ขนมครกสุกอย่าง均่งสมและไม่ติดกระทะ
ขั้นตอนการเตรียมกระทะเป็นการเตรียมพื้นที่ในการทำขนมครกสิงคโปร์ให้พร้อมใช้งาน ด้วยขั้นตอนนี้คุณจะสามารถทำขนมครกอย่างสะดวกและสามารถควบคุมความกรอบของขนมได้อย่างลงตัว
ขั้นตอนการทำขนมครก
ขั้นตอนการทำขนมครกเป็นขั้นตอนสุดท้ายในกระบวนการทำขนมครกสิงคโปร์ ตามนี้คือขั้นตอนเหล่านี้:
- นำส่วนผสมที่ผสมในขั้นตอนการผสมส่วนผสมหลักมาวางลงในแต่ละช่องของขนมครกที่มีอยู่บนกระทะ คุณควรตั้งไฟกลางน้อยและนำขนมครกลงมาวนให้เนื้อหนามีลักษณะทรงกลมเหมือนกล้วยเตยขนมครก
- หมุนขนมครกด้วยคลื่นความร้อนอ่อน ๆ จนกระทั่งขนมครกสุก การหมุนควรทำอย่างช้า ๆ เพื่อให้ทุกด้านของขนมครกสุกอย่าง均่งสม
- เมื่อขนมครกสุกแล้ว คุณสามารถนำออกจากกระทะและจัดเสิร์ฟได้เลย ควรรับประทานขนมครกทันทีเพื่อรับรสชาติและความนุ่มนวลในรสชาติที่ดีที่สุด
การทำขนมครกนี้เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่สร้างขนมที่อร่อยและนุ่มนวล ควรระมัดระวังในการหมุนขนมครั้งแรกเพื่อให้เนื้อเนียน และต้องรอให้สุกอย่างดีก่อนที่จะนำออกจากกระทะและเสิร์ฟให้รับประทาน อร่อยนะครับ!
การเสิร์ฟขนมครกสิงคโปร์
การเสิร์ฟขนมครกสิงคโปร์เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่มีความสำคัญในกระบวนการทำขนมครก เพราะมันมีผลต่อประสบการณ์รับประทานขนม ดังนั้น การเสิร์ฟควรทำอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ทุกคนได้รับประทานขนมอย่างสนุกสนานและอร่อย
เมื่อขนมครกสิงคโปร์สุกแล้ว คุณควรจัดเสิร์ฟที่หนาเกลือกับน้ำมัน สามารถใช้น้ำมันพืชเล็กน้อยเติมให้กับขนมเพื่อเพิ่มความกรอบและความหอมของขนมครก
นอกจากนี้ คุณยังสามารถเสิร์ฟขนมครกพร้อมกับน้ำมะพร้าวหรือน้ำหวานตามความชอบ น้ำมะพร้าวจะเพิ่มความหอมของขนมครกและทำให้รสชาติเป็นอิ่มอร่อย หรือถ้าคุณชื่นชอบความหวาน คุณสามารถเสิร์ฟกับน้ำหวานเพิ่มเติมเพื่อให้ขนมครกมีรสชาติหวานเข้มข้นขึ้น
สุดท้าย ขนมครกสิงคโปร์ควรรับประทานทันทีหลังจากเสิร์ฟเพื่อรับประสบการณ์ที่อร่อยที่สุด เนื้อขนมครกนุ่มนวล ความหอมของใบเตย และความกรอบจากเกลือและน้ำมันทำให้ขนมครกสิงคโปร์นี้เป็นของหวานที่อร่อยและน่าตื่นตาตื่นใจ จึงควรสร้างประสบการณ์รับประทานที่อร่อยและจดจำไว้ในหัวใจของทุกคนที่มีโอกาสลิ้มลองขนมครกสิงคโปร์นี้ครับ!
สรุป
ในการทำขนมครกสิงคโปร์สูตรพิเศษนี้ เราได้รู้จักกับรสชาติที่หอมของใบเตยและความนุ่มนวลของข้าวเจ้าในขนมครกที่อร่อยและเป็นเอกลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ การทำขนมครกไม่ยากเย็นและสามารถทำในบ้านได้ และการเสิร์ฟขนมครกด้วยน้ำมะพร้าวหรือน้ำหวานจะเพิ่มความอร่อยและหอมของขนมอีกด้วย อย่าลืมรับประทานขนมครั้งนี้กับครอบครัวและเพื่อน ๆ เพื่อสร้างความสุขและความทรงจำที่ดีในทุกๆ ชิ้นขนมครกสิงคโปร์ที่คุณทำขึ้น!
FAQs
ขนมครกสิงคโปร์ต่างจากขนมครกไทยอย่างไร?
ขนมครกสิงคโปร์มีความหอมจากใบเตยและรสชาติหวานจากกะทิที่ไม่เหมือนขนมครกไทยที่มีรสชาติเค็มมากขึ้น
สามารถใช้ใบเตยแห้งแทนใบเตยสดได้ไหม?
ใช้ใบเตยแห้งแทนใบเตยสดได้ แต่ควรใช้ปริมาณน้อยลงเนื่องจากใบเตยแห้งมีกลิ่นหอมแรงกว่า
มีวิธีเตรียมน้ำใบเตยอย่างไร?
สามารถหาน้ำใบเตยสดที่ร้านสะดวกซื้อ หรือสามารถสกัดน้ำใบเตยจากใบสดๆ ได้โดยการหั่นใบเตยเป็นชิ้นเล็กแล้วนำมาบีบเอาน้ำออก
ขนมครกสิงคโปร์สามารถเก็บไว้นานเท่าไหร่ได้?
ขนมครกสิงคโปร์สดๆ สามารถเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องประมาณ 2-3 วัน แต่หากเก็บในตู้เย็น สามารถเก็บไว้นานกว่านี้ได้
สามารถเสิร์ฟขนมครกสิงคโปร์พร้อมกับส่วนผสมอื่น ๆ ได้หรือไม่?
สามารถเสิร์ฟขนมครกสิงคโปร์พร้อมกับน้ำมะพร้าวหรือน้ำหวานเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มรสชาติ แต่มักไม่ควรเสิร์ฟพร้อมกับอาหารอื่นเนื่องจากมันมีรสชาติและกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของขนมครกสิงคโปร์