จุดกางเต็นท์ริมน้ำ: ไปตั้งแคมป์ที่กาญจนบุรีแต่เกือบไม่ได้กลับกัน | หลอนตามสั่ง

หลังจากเส้นทางท่องเที่ยวยาวๆ เป็นช่วงหลังของฤดูฝน ฉันและเพื่อนๆ จึงตัดสินใจที่จะเดินทางไปตั้งแคมป์ที่จุดกางเต็นท์ริมน้ำ ที่ตั้งอยู่ในเขตชุมชนเล็กๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี ที่มีชื่อว่า “บ้านทุ่งน้ำวน” โดยจุดกางเต็นท์นี้ มีชื่อเสียงมากในภูมิภาคนี้ เนื่องจากที่นี่เป็นที่เดิมของชุมชนพื้นเมืองที่มีความเชื่อกันว่ามีผีขึ้นมาทุ่มเทในพื้นที่ และสร้างความหวาดกลัวให้กับชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง

1. การเดินทางไปจุดกางเต็นท์

เราได้เดินทางมาถึงจุดกางเต็นท์ในช่วงเย็นของวันศุกร์ ฉันและเพื่อนๆ ก็เริ่มตั้งแคมป์ จัดอุปกรณ์ต่างๆ และติดตั้งที่นอนไว้ในเต็นท์ ตั้งแต่ที่เราเดินทางมาถึง ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ไม่สมบูรณ์อยู่ในส่วนของที่นอน แต่ฉันก็ไม่คิดมากเพราะเราเลือกจุดกางเต็นท์นี้เพื่อความเป็นส่วนตัว และไม่มีคนอื่นเข้ามาเป็นเพื่อนบ้านใกล้ๆ

2. เริ่มต้นคืนแรกในแคมป์

ในคืนแรกที่เราตั้งแคมป์อยู่ที่จุดกางเต็นท์ มีเสียงคร่าวๆ ที่ได้ยินเข้ามาจากป่าใกล้ๆ แต่ไม่มีใครกล้าจะออกมาตรวจสอบ ฉันก็ไม่ได้คิดมากเพราะฉันคิดว่าอาจจะเป็นสัตว์ป่าหรือเพียงเสียงหลงเสียงที่มาจากบริเวณใกล้เคียง

แต่ตอนกลางคืน มีเสียงดังเหมือนเป็นเสียงเท้ากระทบพื้นและเสียงซีดจากด้านนอกเต็นท์ ฉันรู้สึกว่ามีสิ่งที่ไม่ปกคลุมอยู่รอบตัวเรา แต่ไม่กล้าออกมาดู เพราะฉันรู้สึกว่าอาจจะเป็นสัตว์ป่าหรือคนที่อยู่ใกล้เคียงเดินเข้ามา จึงอยู่ในเต็นท์และรอให้สิ่งที่อยู่รอบตัวผ่านไปก่อน

3. เสียงลมรังแก

ในคืนถัดมา เราได้ยินเสียงลมแรงที่มาพร้อมกับฝนตกหนัก ฉันรู้สึกว่าเต็นท์ของเราเต็มไปด้วยน้ำ และเราอาจจะต้องย้ายไปหาที่อื่นให้แหลมแนะนำในเชิงท่องเที่ยวไว้ แต่ขณะที่เรากำลังพยายามจะรีบหัดเตรียมตัว ฉันได้ยินเสียงของเข็มนาฬิกาที่หยุดหมุนอย่างไม่น่าเชื่อถือได้ และเริ่มรู้สึกว่ามีอะไรเกิดขึ้นในตัวฉัน

4. ความผิดหวังที่ไม่อาจลืม

ในคืนนั้น เราไม่ได้หลับเลย เนื่องจากเรารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น ในขณะที่ฉันกำลังเรียงเตียงเรียบร้อย ฉันได้เห็นภาพของสิ่งที่กลัวที่สุดของฉัน ฉันเห็นเงาของคนเดินอยู่ในเขตรอบตัวฉัน แต่ไม่มีใครอยู่ในภายนอกของเต็นท์เรา

เมื่อฉันเห็นเงานั้น ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่ฉันไม่กล้าเปิดเต็นท์เพื่อตรวจสอบ เพราะฉันรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่ไม่ปกคลุมเกิดขึ้นรอบตัวเรา และสิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่ฉันอยากจะพบ

5. คืนที่ไม่มีเงา

ในคืนถัดไป เราอยู่ในเต็นท์และไม่ได้เห็นเงาใดๆ เลย ฉันรู้สึกว่าเราเป็นคนเดียวที่อยู่ในพื้นที่นี้ และไม่มีใครอื่นอยู่รอบตัวเรา ในตอนเช้า ฉันจึงออกมาตรวจสอบสิ่งรอบตัว แต่ก็ไม่พบอะไรที่บอกว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น

6. คืนสุดท้ายในจุดกางเต็นท์

ในคืนสุดท้ายที่เราอยู่ในจุดกางเต็นท์นี้ มีเสียงกระหึ่มที่มากพร้อมกับเสียงดังของเท้าเดินอยู่รอบๆ เต็นท์ของเรา ฉันรู้สฉันรู้สึกว่าต้องมีคนอยู่ใกล้เคียง แต่ไม่มีใครเข้ามาเยี่ยมเรา ในที่สุด เสียงดังกลับหายไป เมื่อเราตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ฉันก็เริ่มรู้สึกว่าเราควรจะกลับกลับบ้านแล้ว แต่ก็รู้สึกว่าอาจจะมีอะไรอยู่รอบตัวเราอยู่อีกครั้ง

7. การกลับบ้านที่น่ากลัว

เมื่อเรากำลังจะเริ่มเดินทางกลับบ้าน ฉันรู้สึกว่ามีสิ่งที่ตามมาเราตลอดเส้นทาง ในบางครั้ง ฉันรู้สึกว่ามีเสียงที่ไม่ปกติที่มาจากป่าใกล้ๆ และบางครั้งก็รู้สึกว่ามีสิ่งที่ดำเนินตามเราเป็นเวลานาน แต่ฉันไม่กล้าหันไปดู และเพื่อนของฉันก็ไม่กล้าหันไปดูด้วย

เมื่อเรากลับมาถึงบ้าน ฉันรู้สึกว่าต้องมีบางอย่างตามเรากลับมาเป็นเวลานาน แต่ฉันไม่กล้าดูหรือสอบถามใคร และไม่มีใครสนใจเรื่องนี้เลย

8. การออกไปท่องเที่ยวใหม่

หลังจากที่เรากลับมาจากจุดกางเต็นท์ริมน้ำนี้ ฉันก็ไม่สามารถลืมประสบการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แม้ว่าฉันจะไม่รู้สึกว่าเราได้พบกับสิ่งที่ผิดปกติจริงๆ หรือว่ามีคนหรือสิง่ายๆ แล้ว ฉันไม่สามารถอธิบายได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอะไร แต่ฉันรู้สึกว่ามันมีผลต่อชีวิตของฉันในอนาคต

ไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวหรือทำอะไรก็ตาม ฉันจะต้องระมัดระวังมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายใดๆ กับฉันอีกครั้ง

9. สรุป

ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในจุดกางเต็นท์ริมน้ำนี้นั้นเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าต้องระมัดระวังเสมอ แม้ว่าฉันจะไม่สามารถอธิบายได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอะไร แต่ฉันได้รับบทเรียนจากประสบการณ์นี้ว่าต้องระมัดระวังทุกครั้งที่เดินทางออกไปท่องเที่ยวหรือทำกิจกรรมใดๆ

การระมัดระวังเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายใดๆ กับเรา และจะช่วยเราที่จะเตรียมความพร้อมในกรณีที่มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น

ผู้อ่านที่สนใจที่จะไปท่องเที่ยวหรือเดินทางออกไปทำกิจกรรมต่างๆ ควรระมัดระวังและเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง เช่น การเช็คสภาพอากาศ การเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ และการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ก่อนออกเดินทาง

“จุดกางเต็นท์ริมน้ำ” ไปตั้งแคมป์ที่กาญจนบุรีแต่เกือบไม่ได้กลับกัน | หลอนตามสั่ง EP.208 | nuenglc [VIDEO]

หลอนตามสั่ง | HORROR STORY REQUESTS
มีวัยรุ่นกลุ่มนึงขี่รถจักรยานยนต์ไปกัน 13 คน
เที่ยวตั้งแคมป์ริมแม่น้ำกันที่จังหวัดกาญจนบุรี
ที่นั้นมันมีศาลลึกลับที่ตั้งอยู่ในป่าหลังห้องน้ำ
ตอนไปถึงก็สนุกสนานกันดี แต่พอวันจะกลับ
กลุ่มพวกเขาดันเจอเรื่องประหลาดเกิดขึ้น
จนทำให้พวกเขาเกือบไม่รอดกลับมา

เนื้อหาของวิดีโอ “จุดกางเต็นท์ริมน้ำ” ไปตั้งแคมป์ที่กาญจนบุรีแต่เกือบไม่ได้กลับกัน | หลอนตามสั่ง EP.208 | nuenglc

สวัสดีครับทุกคนครับ ขอต้อนรับเข้าสู่ช่วงหลอนตามสั่ง อยู่กับผมครับ 11 l c เรื่องราวความสยองขวัญในปีนี้ได้รับเกิดขึ้นกับผู้ฟังทางบ้านที่มีโอกาสไปออกทริป ไปกางเต็นท์กับเพื่อนที่จังหวัดกาญจนบุรีครับ จะบอกว่าเรื่องราวต่อไปนี้คุณจะได้รับชมรับฟังแบบนี้นะครับ เป็นประสบการณ์หลอน ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้เองครับ กับเรื่องราวของการ ไปตั้งแคมป์กันริมลำธาร แล้วไม่ได้ขอเจ้าที่เจ้าทาง จนเกิดเรื่องราวแปลกๆ ตั้งแต่อยู่ที่นู่น และจนตามเขากลับมา ไปกัน 13 คน แต่เกือบจะกลับมาแค่ 12 เท่านั้นเอง เรื่องราวนี้ครับเกิดขึ้นกับผู้ฟังทางบ้านท่านหนึ่ง คิดว่าคุณเต็นท์ คุณเต้นให้ได้ส่งเรื่องราวความสยองขวัญเข้ามาครับ บอกว่าเหตุการณ์ที่เจอเนี่ย มันเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ถึง 13 ตุลาคมปีพศ. 2560 5 ที่ผ่านมา เขาเองกับเพื่อนๆแล้วก็น้องๆครับ ตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน โดยการขี่มอเตอร์ไซค์กันไปท่องเที่ยวกัน บวกกับว่าช่วงที่ไปนี้ครับ มันมีรุ่นน้องคนนึง เขาอยากจะไปจัดวันเกิดที่นั่นด้วยพอดี จังหวัดที่พวกเขาคุยกันเองที่จะขับมอเตอร์ไซค์ไปในครั้งนี้ ภูเขาเห็นเรื่องจะไปเที่ยวที่จังหวัดกาญจนบุรีครับ ที่อำเภออำเภอหนึ่ง ซึ่งจุดที่จะไปครับมันเป็นสถานที่กางเต็นท์ในป่าลึก มันมีลำธารตัดผ่าน เพลงลำธารนี้ครับมันไหลต่อเนื่องมาจากเขื่อนศรีนครินทร์อีกทีนึง ภูเขาตัดสินใจจะออกเดินทางกันวันที่ 11 ตุลาคมเวลาประมาณเที่ยงคืนครับล้อจะหมุน แต่เนื่องจากว่า มันติดปัญหาอะไรหลายๆอย่างครับ ไม่ว่าจะเป็นคนนู้นยังมาไม่ถึงคนนี้ลืมอย่างนู้นอย่างนี้ รวมไปถึงแม้กระทั่งเพื่อนบางคนครับ ยางรั่วยางแตกในวันที่จอดเดินทางก็ต้องไปหาร้านเปลี่ยนในตอนกลางค่ำกลางคืน กว่าจะได้ออกเดินทางกันจริงๆครับ เวลา 5:30 น ผิดพลาดจากเดิมไปหลายชั่วโมงพอสมควร ตื่น 5:30 น ครับทุกคนมาถึงพร้อมกันตอนนั้นยังมี 11 คัน ก็พากันขี่จากกรุงเทพฯมาเลยครับออกไป การเดินทางก็เป็นปกติของคนขี่มอเตอร์ไซค์ออกทริปกันนั่นแหละครับ กระบี่แวะซื้อของ มีถ่ายรูปตามทางบ้าง แวะจอดชมธรรมชาติตามจุดต่างๆที่เขาแนะนำ ว่าจะไปสถานที่ท่องเที่ยวในต่างๆสะพานข้ามแม่น้ำแคว ทำนู่นทำนี่อะไรประคบไปจนหมดครับการเดินทางนี้ไม่มีอะไรเลยครับไม่มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้น ไปถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพครับ จุดตรงที่ไปถึงเนี่ยคือเป็นจุดกางเต็นท์ในป่า ไปถึงเวลาตอนนั้นประมาณ 15:00 น เกือบจะ 4 โมงแล้ว เนื่องจากว่าแวะหลายที่ครับ แล้วแต่วันที่ไปนี่ก็ใช้เวลานาน ทั้ง 11 คนนี้ก็มาถึงยังจุดกางเต็นท์ โดยที่ไม่มีใครเป็นอะไรเลยครับ มาในครั้งนั้นเนี่ยมาผู้หญิง 5 คน รักผู้ชาย 6 คน ซึ่งอาจจะมีรุ่นพี่ของเขา 1 คนแล้วก็เพื่อน 1 คนครับที่เป็นรุ่นเดียวกัน ส่วนที่เหลือนี้เนี่ย เป็นรุ่นน้องทั้งหมดเลย หลังจากที่มาถึงครับเจ้าของสถานที่ในก็ให้เลือกจุดกางเต็นท์ ภูเขาก็ขอเดินดูรอบๆก่อนครับ ว่าจะเอาตรงไหนดี เจ้าของเล็กเข้าใจดีครับ แก้ผ้าเดินจุดต่างๆภายเดินดูตรงนู้นตรงนี้ ส่วนของด้านหน้าแหละ คนกางเต็นท์เยอะ เนื่องจากว่ามันเป็นวันหยุดด้วยละมั้งคนหรือมาเที่ยวกัน ภูเขาได้บอกเจ้าของครับว่าอยากจะไปจุดที่มันแบบว่าไม่ค่อยมีคนหน่อยครับพี่ แกก็พาไปครับ เดินเข้าไปลึกไหมพอสมควร ไปเลือกเป็นจุดจุดหนึ่งครับเป็นจุดกางเต็นท์ด้านใน ติดกับลำธาร แล้วจุดที่พวกเขาเลือกมันอยู่ห่างจากคนอื่นมาประมาณ 500 เมตร ด้วยความที่ว่ามากันเป็นวัยรุ่นนี่แหละครับ กลัวว่าจะส่งเสียงดังรบกวนเป็นอื่นๆ หลังจากได้จุดที่ต้องการแล้วครับ ก็พากันกางเต็นท์ พอเสร็จแล้วก็มาหาข้าวหาปลากินกันครับ ขี่กันออกมา มาซื้อหมูไปย่างครับแล้วก็ซื้อของต่างๆในมานั่งทำกินกัน ซื้อพวกเครื่องดื่มเครื่องดื่มอะไรเข้ามาพร้อมเลย เพราะหลังจากที่ได้วัตถุดิบอะไรต่างๆมาแล้วครับ ก็เริ่มปฏิบัติการทำอาหารเย็นกินกัน ทุกคนตอนนั้นคุยกันครับแล้วก็ตกลงกับเพื่อนๆน้องๆทุกคนกันว่า มาในป่าในเขาแบบนี้ อย่าทำ หรือพูดอะไรที่เป็นการลบหลู่หรือ แกล้งหลอกผีกันโดยเด็ด ดูความรักครั้งนี้ที่หมาครับ ตัวเขาเองเนี่ย กับแฟนของเจ้าของวันเกิดครับ น้องคนนี้เนี่ย มาในช่วงวัยเบญจเพสพอดีพอดี ฝรั่งจากตกลงอะไรกันเคลียร์กันเสร็จเรียบร้อยครับ ก็พากันกินข้าวกินน้ำอะไรกันต่อไป หลังจากกินกันอิ่มท้องจนได้ที่ก็พากันแยกย้ายไปอาบน้ำอาบท่า อาบเสร็จแล้วก็มานั่งคุยกันอยู่สักพักหนึ่ง เวลาเกือบจะเที่ยงคืนครับ เลยบอกทุกคนว่าคืนนี้เนี่ยเขานอนกันดีกว่า เนื่องจากว่าเราเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว อีกอย่าง บรรยากาศตรงนี้ครับริมธารเนี่ย มันมืดแล้วมันก็น่ากลัว ก็พากันเข้านอนกันไปครับ แยกย้ายกันเข้าไปนอนแต่ละเต็นท์ใครเต้นมันไป จนกระทั่งในค่ำคืนนี้จะผ่านไป ทุกคนมีความสุขมากครับตื่นเช้ามาเนี่ยบรรยากาศดี ได้ยินเสียงลำธารน้ำไหล พากันตื่นแต่เช้าครับ เข้าสู่เช้าตรู่วันที่ 12 เนื่องจากเมื่อวานที่มาถึงนัดเป็นวันที่ 11 เช้าที่ 12 นี้ครับ เขาตื่นมาเนี่ย ก็ได้เห็นว่ามันมีน้องอีก 2 คนครับพี่เพิ่งจะมาถึงเมื่อคืนนี้ ไม่เห็นตอนที่ว่าล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้วนี่แหละครับ ก่อนจะเดินกลับมาที่เต็นท์ เห็นน้องสองคนนี้ครับมักกางเต็นท์อยู่ไม่ไกลจากจุดที่เขากาง ไม่ถามว่ารีบมาถึงตอนไหนเนี่ยทำไมพี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย น้อง 2 คนที่มาทีหลังแล้วก็เล่าให้ฟังเพราะว่า ผมมาถึงตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับพี่ มาตอนกลางคืน โคตรน่ากลัวเลย น้องมันก็ลืมเล่าให้ฟังครับว่า ในระหว่างที่มึงกำลังขี่มาเนี่ย มันจะผ่านโค้ง 1 เป็นทางโค้งอยู่บนเขาครับ ในระหว่างที่มันกำลังขับอยู่บนเขานี้ มันเห็นว่าตรงโค้งเนี่ย มีชายคนหนึ่งครับรูปร่างใหญ่ ยืนจำหน่ายอยู่ตรงโค้งนั้น พอมันเห็นเช่นนั้นก็รีบปิดทันทีครับ มันก็รีบบิดออกมา แต่มันบอกว่าบิดมาไกลพอสมควร ยังมีความรู้สึกเหมือนกับว่ายังขับวนอยู่ที่เดิมเกือบชั่วโมงเห็นจะได้ กลัวมากครับ ทั้งบรรยากาศทั้งหลายต่างๆ บวกกับตอนนี้มันมืดสนิท คุกกี้มากัน 2 คนกับแฟนครับ ขับวนอยู่บนเขานี่แหละโค้งแล้วโค้งอีกโค้งแล้วก็หิวเหมือนกัน ด้วยความกลัวจะตัดสินใจครับสวดมนต์คาถาคาถา 1 ที่อาจารย์สักยันต์ที่น้องพึ่งจะไปสักมาเนี่ย เขาให้สถาบันห้องครับ หลังจากที่น้องมันเริ่มท่องบทสวดแล้วก็ขี่ไปด้วยนี้ ผ่านมาแป๊บเดียวเท่านั้นแหละครับ ก็มาถึงทางลงเขาแล้วก็เป็นทางตรงยาวมาเลย พอขับมาเรื่อยๆก็มาถึงทางเข้าจุดกางเต็นท์ มาถึงนี่มันก็กลัวมากครับ มันบอกว่ามันขับวนอยู่บนเขานะเนี่ย นานมาก ทั้งๆที่เปิด GPS ดูหน่อยครับ จากจุดที่เริ่มขึ้นเขา มาถึงจุดนี้ พี่ใช้เวลานานเลย บ่ได้ฟังเช่นนี้เขาก็รู้สึกกลัวมากครับ กับสิ่งที่คุณหมอคนนี้มันเจอ ก็ได้แต่ปลอบมันก็ไม่มีอะไรนะน้อง เอานะครับพอดีว่ามาพักผ่อนก็แล้วกัน วันนี้ทั้งวันไหนก็ดำเนินไปด้วยตามปกติครับ จนกระทั่งมาถึงเวลาประมาณ 19:00 น 20:00 น ภูเขาไหนที่ซื้อเบียร์แล้วก็ซื้อย่างหมูย่างปลาอะไรมากินกันตามปกติ และด้วยความที่ว่าดื่มเบียร์กัน หรือจะมีการส่งเสียงดังกันครับ ค่ำคืนนี้เน้นเสียงดังเป็นพิเศษ พอดีจะว่าวันนี้ครับ มันเป็นวันเกิดของรุ่นน้องคนหนึ่งที่มาด้วยกัน ทุกคนในสนุกสนานเสียงดังเฮฮากันลั่นป่า น้องที่เป็นเจ้าของวันเกิดนี่ครับอยู่ๆมันก็พูดขึ้นมาว่า กินกันน่ะ เดี๋ยวไหว้เจ้าที่ก่อนเปล่า ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ทุกคนตอนนั้นนึกขึ้นได้ครับ ตั้งแต่เมื่อวาน ไม่มีใครไหว้เจ้าที่เจ้าทางเลย ทุกคนอย่าลืมเอาของไปไหว้กันหมด เลยตัดสินใจกันครับย่างหมูชิ้นใหม่แล้วก็เชื่อมแรงๆครับใส่แก้วพลาสติก แล้วก็เครื่องดื่มนี่แหละครับใส่แก้วพลาสติกไปด้วย เอาไปวางไว้ที่ศาลครับ สารในมันอยู่ตรงหลังห้องน้ำ มันลึกเข้าไปครับ ลึกเข้าไปเป็นทางเดินเข้าไปในจะเห็นว่าสถานที่ตั้งอยู่กลางป่า ตอนกลางวันเนี่ยสวยมาก จะตกกลางคืนเนี่ยร้อนพอสมควร ตอนนั้นจะใช้ให้รุ่นน้องคนนึงมันเอาไปวาง แต่มันก็ไม่กล้าไปคนเดียว ทั้งหมด 13 คนนี้ครับ เลยพากันเดินไปที่ศาลแล้วก็เอาเครื่องเซ่นไหว้นี่แหละครับพี่เตรียมมาเนี่ย ไปวางไว้แล้วก็ไหว้ เพราะหลังจากที่ว่าการเกษตรครับก็พากันเดินกลับมานั่งกินกันต่ออย่างสนุกสนาน สิ่งที่ประชุมคงดังลั่นป่าต่อไป วันนั้นกินไม่ได้สักพักหนึ่งครับ เขาเองอย่าลืมอิ่ม ก็เลยไปนอนเล่นมือถืออยู่ในเต็นท์ครับ ระหว่างที่กำลังนอนเล่นมือถือในเต็นท์เนี่ย เล่นไม่ได้สักพักหนึ่ง อยู่ดีๆเพื่อนเขาครับ ก็เดินเปิดเป็นเข้ามา มันทำหน้าไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ มันเดินเปิดเป็นเข้ามาแล้วมันก็มานั่งอยู่ข้างๆเขาครับ แล้วมันก็พูดว่า เมื่อกี้กูได้ยินเสียงคนพูดอะไรไม่รู้ว่ะ เป็นเสียงพูดแบบเป็นภาษาอะไรไม่รู้กูฟังไม่รู้เรื่องเลย ไม่ใช่ภาษาไทยอย่างแน่นอน ฟังดูแล้วเนี่ย ไม่รู้มันพูดอะไร ตอนนี้พ่อได้ยินเช่นนี้ครับ ก็เลยลบออกจากเต็นท์ แล้วก็เดินมาถามผมน้องทุกคนครับว่า เมื่อกี้มีใครพูดอะไรหรือเปล่า มีใครทำผิดกฎไหม แต่ทุกคนตอนนั้นก็บอกไปสิ่งเดียวกันครับว่าไม่มีใครพูดอะไรนะพี่ พอดีเช่นกันครับที่ทุกคนบอกว่าไม่มีใครพูด เขาเริ่มรู้แล้วครับ หัวหน้าจะมีเรื่องอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ก็เลยบอกเพื่อนคนนี้เขาว่ามึงมากับกูเดี๋ยวกูพาไป เขาตัดสินใจพาเพื่อนครับ เดินไปที่ศาล พากันเดินไป 2 คนนะครับ เพื่อที่จะไปขอขมาที่ศาลกัน พอเดินไปถึงครับ ก็บอกเพื่อนว่ามึงพูดตามกูเลยนะว่า ลูกช้างขอขมาสิ่งที่ทุกคนเนี่ยมากินด้วยกันในวันนี้ที่จะส่งเสียงดังด้วยนั่นแหละก็ขอขมา ไปกับก้อยเพื่อนเดี๋ยวพูดตามไปด้วย พอหลังจากที่ขอคำอาลัยเกษตรครับ พากันเดินกลับมากับเพื่อน 2 คน กลับมาถึงที่เต็นท์เนี่ย ผู้ผลิตคุยกันครับว่า ถ้าเป็นอย่างนี้แหละน่าจะไม่ดีแล้ว เลยบอกน้องๆครับว่า ใครจะไปเข้าห้องน้ำ อย่าไปคนเดียว ให้ปลุกคนอื่นไปด้วย จุดที่กางเต็นท์ครับ จุดห้องน้ำเนี่ย มันห่างกัน แล้วห้องน้ำอยู่ด้านหลังห้องน้ำมันเป็นสารอีก เขาไม่กลัวครับ กลัวกับสิ่งที่เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นในมันจะเกิดขึ้นกับทุกๆคน หลังจากนั้นครับเพราะคุยกันเสร็จตกลงกันได้เนี่ย มีบางกลุ่มที่ยังนั่งกินกันต่อ ส่วนกลุ่มใหญ่ๆก็พากันแยกย้ายเข้านอนครับ บริจาควัดสถานการณ์ยังไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ คนนี้เริ่มเครียด กับสิ่งที่เพื่อนเขาได้เจอ ตัวถ้าทุกคนแยกย้ายกันเข้านอนของเป็นใครเป็นหมัน เขาเองก็เขานอนเต้นท์ของเขาไป เวลาประมาณ 01:00 น ครับ เขาเองอยากโดนรุ่นน้องแกล้ง มันมีรุ่นน้องคนหนึ่งครับเดินเปิดเต็นท์เข้ามา มันเข้ามาถึงเนี่ยมันก็มันนอนอยู่ข้างๆเขาครับ แฟนเขานอนอยู่อีกฝั่งนึง และรุ่นน้องคนนี้ครับมันถึงได้มันเดินเข้ามาปุ๊บเนี่ยมันก็เข้ามานอนข้างเขา แล้วมันก็นอนจ้องหน้าเขาครับ มันต้องได้อย่างเดียวไม่เท่าไหร่สิ แต่มันทำเสียงครางต่างๆครับ เป็นสิ่งประมาณแบบ ห* แล้วมันก็ออกฝันดีครับพบกันไปสิงคโปร์ๆ แล้วก็ทำเสียงครางต่ำไปด้วย เขาเน้นตกใจครับไม่ได้ยินเสียงนั้น ลืมตาขึ้นมาเห็นเป็นรุ่นน้องคนนี้เนี่ย มันนอนต้องได้อยู่เขาก็ตกใจครับ แล้วกูถามว่ามึงไม่เล่นหรอกผีอะไรวะในป่าในเขา พูดจบครับ ไอ้รุ่นน้องที่มันนอนแกล้ง อยู่ดีๆมันก็ขึ้นเหมือนกันครับ แล้วมันก็เดินออกจากเต็นท์ไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไร เขาเองก็คิดว่าสงสัยมันคงจะกลัวที่จะโดนเขาด่า มันก็เลยรีบลุกออกไป และหลังจากนั้นครับก็ปล่อยเขายังงงครับกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันเข้ามาแกล้งมันก็เดินออกไปเนี่ยนะ หลังจากนั้นเขาก็ล้มตัวลงนอนต่อ โดยที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ มันเกิดเรื่องแปลกๆขึ้นกับทุกคนที่ไปกันในวันนั้น จนกระทั่งตื่นเช้ามา เข้าสู่เช้าวันที่ 13 ตุลาคม ตื่นมาเลยเพราะได้ยินเสียงโวยวายกันแต่เช้า พ่อมาจากเต็นท์ครับได้เห็นทุกคน Movie เสียงดังครับ เพราะว่ามันมีแฟนของน้องเจ้าของวันเกิดเนี่ย เลือดไหลออกมาตรงตาครับ ตาของน้องคนนี้ไงต้องเป็นตาขาวให้เป็นสีแดงก่ำไปทั่วตาขาวเลย แล้วมันก็มีเลือดไหลออกมา ทุกคนตอนนั้นสิตกใจกันหมดเลยครับ แล้วก็เลยมานั่งคุยกันครับว่ามันเกิดอะไรขึ้น น้องคนนี้ครับ เลือดไหลออกตาแล้วตาแดงนี่แหละครับ กลอนฝังว่า เมื่อคืนตอนตี 4 คืนนี้สะดุ้งตื่นขึ้นมาปวดฉี่ครับ แต่ว่าไม่อยากจะปลุกแฟน ไม่ได้ไปเข้าห้องน้ำคนเดียวตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนเดินไปถึงที่หน้าห้องน้ำ เธอนี่หันไปมองด้านหลังครับ ตรงนั้นมันจะมีสถานที่ตั้งอยู่กลางป่า ตีนคำว่า มีผู้ชายคนนึงปูใหญ่มาก ยืนหันหลัง แล้วก็ยืนจ้องศาลอยู่อย่างนั้น พอดีเห็นน้องก็เลยรีบทำธุระแล้วก็รีบกลับมานอน ตื่นเช้ามาแล้วตกใจเหมือนกัน พบเลือดไหลอาบเต็มสองตา ตาแดงก่ำด้วยครับเหมือนกับเส้นเลือดในตาน้ำแตก จนทุกคนบอกว่าพาไปหาหมอก่อนไหม หนึ่งในนั้นครับพี่ปายเนี่ย ก็ก้อนน้ำแข็งที่เหลือเมื่อคืนนี้แหละครับ มาห่อผ้าแล้วก็ประคบที่ตาให้ ไม่เหมือนกับอาการมันจะเริ่มดีขึ้นครับ น้องคนนี้ก็เลยไม่ได้ไปหาหมอ แล้วเหตุการณ์ประหลาดครับ มันก็ได้เกิดขึ้นกับคนที่ไปในคลิปนั้นเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ครับมันมีน้องอีก 2 คนครับ ถัดไปไม่กี่ต้นเนี่ย เจอเรื่องหนึ่ง น้องเล่าให้ฟังคำว่าหลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันเข้านอนกันหมดแล้ว ระหว่างนั้นเนี่ย เขากับแฟนเห็นนอนคุยกันอยู่ในเต็นท์นี่แหละครับ คุยนู่นคุยนี่กันไป ก็เห็นเขาว่ามันมีเงาของคนนี่แหละครับ พากันยืนอยู่นอกเต็นท์ครับยืนกันหลายคนคือยืนกันล้อมเต็นท์เลยแหละ พอดีเห็นเช่นนั้นเนี่ยว่ามีเงาคนมายืนรอบเย็นนะครับ เศรษฐกิจแฟนเก่าว่า เอาแล้ว โดนแกล้งอีกละ ไปเลยตะโกนขึ้นมาว่าแหม Caption พื้นเลยนะ แต่พอหลังจากพูดจบจาก มันไม่มีเสียงตอบกลับอะไรมาสักนิดเลย ถึงจะเป็นเพื่อนๆด้วยกันเนี่ย อยากเห็นว่ามันน่าจะขำ หรือไม่ก็ต้องแซว หรือไม่ก็ต้องพูดอะไรกลับมาสักอย่าง แต่บรรยากาศตอนนี้มันเงียบสนิท คนที่ยืนอยู่ข้างนอกเต็มที่เขาเห็น ไม่มีใครส่งเสียง แล้วก็ไม่มีใครขยับเขยื้อนเลย ก็เห็นเช่นกันครับทั้งสองคนก็รีบข่มตานอนกัน พอดีฟังเรื่องที่คนในคลิปเนี่ยครับเล่าให้ฟังว่าแต่ละคนจะเจออะไรกันบ้าง เขาเองก็ได้เล่าให้ฟังเช่นเดียวกันครับ พร้อมกับตอนที่จะเล่าเนี่ย ได้ชี้นิ้วไปทางรุ่นน้องคนนึงที่มันเข้ามาแกล้งผีหลอกเมื่อคืนนี้ แล้วเขาก็พูดว่า อย่าบอกนะ มึงไม่ได้เข้ามาหลอกผีกูในเต็นท์น่ะ น้องมันก็บอกคนตลกครับว่าเปล่านะพี่เปล่านะผมไม่รู้นะพี่ผมไม่รู้ มันปฏิเสธลูกเดียวเลยครับ ในระหว่างที่คุณกำลังคุยกับสิ่งที่เจอกันอยู่ว่า มีใครเจออะไรแปลกๆนอกจากนี้ไหม พี่ชายของน้องที่เลือดไหลเต็มตานี่แหละครับ โทรเข้ามาพอดี พี่ชายเขาบอกว่าเมื่อคืนเขามีแรงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก็เลยถามว่าตอนนี้อยู่ไหนกันแล้วทำอะไรกันอยู่ น้องเล่าให้ฟังว่าตอนนี้หนูมาทริปกับเพื่อนๆพี่ๆที่กาญจนบุรี กำลังจะกลับกันแล้วแหละ พี่ก็บอกว่ารีบกลับเลยนะ รีบออกจากจังหวัดการก่อนฟ้าจะมืด ออกให้ทันก่อนฟ้าจะมืดนะ แล้วตอนออกมาเนี่ยลองนับดีๆด้วยนะว่ามากี่คน แล้ววันนี้วันที่เท่าไหร่ วันอะไร เนื่องจากว่าพี่ชายของน้องคนนี้ครับ เขามีเซ้นส์เรื่องพวกนี้ แล้วมันประจวบเหมาะมากๆครับ พวกเขาเรียนอยู่กันครบกันเลยครับ 13 คน ก็คือวันแรกที่มาใน 11 คนใช่ไหมครับแล้วก็มี 2 คนเนี่ยตามมาทีหลัง รวมเป็น 13 ประจวบเหมาะกับว่า วันที่จะกลับ เป็นวันที่ 13 พอดี 13 คน กลับวันที่ 13 แล้วเป็นวันพระอีก ทุกคนตอนนั้นคิดถอดสีหน้ากันเลยครับ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะบังเอิญได้ขนาดนี้ กว่าจะกลับกันครับ ทั้งหมด 13 คนเนี่ย ก็พากันไปขอขมาที่ศาลนะครับ พอไปถึงที่ศาลครับ ก็ได้ให้น้องคนที่ตามันเลือดออกนี่แหละครับ เป็นคนจุดธูปจำนวน 13 ดอกเท่ากับจำนวนคน แต่มันน่าแปลกมาก จังหวัดที่กำลังจุดธูปอยู่นี่แหละครับ จุดเป็นกรรมเลยนะครับ 13 อันเนี่ย จุดเท่าไหร่ก็จุดติดไม่ครบครับ มันติดแค่ 12 อัน เหมือนจะเป็นลางบอกเหตุไม่ดีว่า จะมี 1 คน ไม่ได้กลับ ก็เลยเปลี่ยนให้คนอื่นมาจุดแทนครับ คนอื่นจุดเนี่ย ก็ติดครบครับ คู่แฝด 13 ก้านจุดติดครบหมด หลังจากที่จุดธูปติดครับก็แจกกันไปคนละก้าวคนละก้าว ท่องบทสวดกันแล้วก็บทขอขมาอะไร ไม่ต้องห่วงที่กำลังพ่อเงินไปอยู่นี่ล่ะครับ อยู่ดีๆ น้องก็หยุดสวดกัน 3 คน สามคนนี้เนี่ยมันหันมองหน้ามองตากันแล้วมันก็พยักหน้า แล้วมันก็กลับมาสวดต่อ บทสวดกันเสร็จปุ๊บครับ ก็เลยพากันปักธูปแล้วก็เดินออกมา มาคุยกันก่อนครับว่า เมื่อกี้ ไอ้สาคนนั้นหยุดสวดทำไม สามคนนี้ที่มันหยุดโสดมันก็เล่าให้ฟังครับว่า พี่ สวัสดีดีๆนะ มันมีเสียงคนเนี่ย สวดแทรกขึ้นมา เขาเองก็เลยบอกให้น้องอัพหยุดก่อนเลย หยุดพูดเลย กูว่ามึงน่าจะโม้นั่นแหละ น้องก็บอกว่าไม่ได้ยินจริงๆ ทั้ง 3 คนเลยครับถ้าหนูไม่ได้ยินเสียงคนสวยจริงๆนะพี่ เขาก็เลยบอกว่า ถ้าคิดว่าจริงอ่ะ ไหนเอ็งบอกดิ วัดเสียงที่ได้ยินพร้อมกันเนี่ย มันเป็นเสียงอะไร ไอ้รุ่นน้อง 2 คนครับ อยู่ๆก็พูดขึ้นมาพร้อมกันหรือว่า อิติปิโสกลับหลังไง ทุกคนตอนนั้นต่างกันขนลุกไปหมดเลยครับ เพราะว่าสองคนนี้มันไม่ได้เตรียมกันอย่างแน่นอนครับ มันพูดขึ้นมาพร้อมกันเลยครับว่ามาได้ยินเสียงคนสวดอิติปิโสกลับหลังในระหว่างที่มันกำลังสวดบท ขอเข้ามาอยู่ เสียงที่ไม่ได้ยินไหมได้ยินพูดแบบซ้ำไปซ้ำมาคำว่า สวดอิติปิโสดีอย่างเงี้ยครับเป็นสิ่งที่คุณลูกมากๆ อุณหภูมิที่พิษณุโลกกลับหลังแล้วครับ มันหมายถึงการที่ว่า ไม่รับ แล้วก็ไม่ให้อภัย หลังจากที่นาที่ทุกคนได้ยินนี่แหละครับ รีบพากันเก็บข้าวเก็บของออกจากที่นั่นอยู่ถึงที ผมก็ต้องออกจากจังหวัดการก่อนฟ้าจะมืด ก็เลยต้องรีบกลับกันพอสมควร ระหว่างทางไหนมันก็มีอุปสรรคเยอะพอสมควรครับ ทางรถติด ฝนตก ลมกระโชก ถ่ายวิวสถานที่ท่องเที่ยวดีๆเนี่ย มันก็ดันติดในสิ่งที่ไม่ควรจะถ่ายติด สุดท้ายนี้ก็พากันออกมาจากจังหวัดกาญได้ แต่ก็เกือบจะมืดอยู่เหมือนกัน ทั้งหมดในพากันไปจอดแวะปั๊มที่จังหวัดราชบุรีครับ ด้วยความที่ว่าเขาเองเป็นคนขับปิดขบวนสุดท้าย เลยมาถึงช้าสุด วันนี้จังหวัดที่เลี้ยวเข้ามาในปั๊มนี่แหละครับ สัมผัสได้หรือว่าทุกคนในสภาพปวดหัวมาก ด้วยความสงสัยและเดินเข้าไปถามว่าเป็นอะไรกันวะ ไม่สนุกหรือไง ไอ้น้องเจ้าของวันเกิดนะครับ มันก็เลยพูดว่า พี่ ผมโคตรห่วยเลยว่ะ คันที่ผมขับมา แม่นหนักแบบแปลกๆ เหมือนกับว่าผมกับแฟนอ่ะ มีเรื่องกัน 2 คนเลย น้องมันบอกว่าตอนที่ขี่มาเนี่ย ไม่ได้หนักขนาดนี้ แต่ตอนที่ขี่ขากลับเนี่ยพี่ก่อนจะจัดการ มันหนักมาก รถมันหนักแปลกๆ แล้วแฟนหนูเขาบอกกับพี่นางมาด้านหลังคนที่ตายเลือดไหลเนี่ย กลุ่มยาอาการแปลกๆ หิวคุยคนเดียวมั้ง เดี๋ยวสวดคาถาอะไรก็ไม่รู้ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน มันหมุนทำเป็นทำเป็นตลอดทางเลยพี่ ถามอะไรก็ไม่ตอบ ตอนนั้นในระหว่างที่ขี่มา น้องบอกว่ามันมองกระจกหลังตลอดครับ แล้วเห็นแฟนตัวเองเนี่ย เฉลยหน้าหมา โลโก้ค้างครับมือวางไว้ที่ไหล่ ยิ้มแบบสยองสยองให้ หอยขนลุกไปทั้งตัวเลยครับ ตอนที่ขี่มาตลอดทางนี้ แล้วมันอยู่กับเหตุการณ์นึงครับ ในระหว่างที่กำลังขับอยู่ข้างๆรถบรรทุก อยู่ดีๆนี่ น้องคนที่เลือดไหลออกตายเนี่ยครับ มันก็เอนตัวไป เหมือนกับจะให้ลดทุนเข้าให้ แต่เขานั้นรีบหักออกมาทัน ไม่อย่างนั้นเนี่ย ตู้ติดกับรถบรรทุกอย่างแน่นอน ผลหักหลบมา มันก็ตะโกนเลยพี่ แฟนผมมันต้องโกหกกูไม่ให้มึงขับกูให้มึงกลับ วันนี้มึงไม่ได้กลับหรอก อยู่กับกูอยู่กับกู แล้วทุกคนตอนนั้นที่ขี่ตามกันมานะครับประมาณ 3-4 คนได้ขี่กันมาเนี่ย กูเห็นเหมือนกันครับ What is this แฟนของน้องคนที่ซ้อนท้ายมาเนี่ยครับคนที่เลือดไหลออกตาย มีพฤติกรรมอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไป แต่พอมาถึงที่ปั๊มที่ราชบุรีเนี่ยครับ หลวงปู่ดู่สงบมาก เหมือนเป็นคนละคนเลย หลังจากนั้นกับเขาก็บอกว่าน้องก็ไม่เป็นไรเมื่อไหร่ กลับบ้านดีกว่า ก็พากันขี่ขับออกจากปั๊มน้ำท่วมถึงบ้านตามปกติ ไม่ได้มีอุปสรรคอะไรเลยครับ กลับมาถึงบ้านเดี๋ยวเขาเองก็เปิดทีวีนั่งดูหนังสบายใจ ดูข่าวที่เด็กมีจากการเดินทาง แล้วก็เรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้นในระหว่างที่ไปเที่ยวกันด้วย วันที่กลับมาถึงบ้านนี้ก็ไม่ใช่มีเพียงแค่เขาแล้วก็แฟนเหรอครับ ก็มีน้องคนที่บอกว่าแฟนเนี่ยมีพฤติกรรมแปลกๆนี่แหละครับ ขี่มาด้วย คืนนี้มานอนด้วยกันที่บ้านเขาครับเพราะว่าบ้านของน้อง 2 คนนี้มันไกล อีกอย่างนึงนะถ้าเกิดขี่ต่อไปเนี่ยน้องมันเหนื่อยครับ มันบอกมันกลัว มันขอนอนที่นี่ก่อนเดี๋ยวเช้ามันจะออกเดินทาง ในระหว่างที่กำลังเปิดทีวีดูหนังอะไรกันอยู่นี่แหละครับ Video แฟนของน้องคนนี้ครับพี่ตามันเลือดไหลเนี่ย มันก็มองไปทางหน้าบ้าน แล้วมันก็ร้องไห้แล้วมันก็โวยวายครับ เขาเองก็เข้ามาปลอบมาถามเป็นไรไม่เป็นไรไม่เป็นไรร้องไห้ทำไม หลวงพ่อพูดถึงน้ำตาครับ เสียงสะอื้นสะอื้นว่า มีคนมายืนจ้องอยู่หน้ารู้ว่าพี่ มีคนมายืนจ้องอยู่ตั้งนานแล้ว หลังจากนั้นครับ เขาเห็นแล้วหรอครับว่าถ้าจะไม่ดีอย่างแน่นอน เรื่องแปลกๆเดี๋ยวมันตามกลับมาถึงบ้านเลย คือบ่ขึ้นไปดอกนึงครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะไปทำบุญที่วัดกัน พากันเข้านอนไปครับในค่ำคืนนี้ พอเช้ามาครับ รีบตื่นแต่เช้ากันอาบน้ำอาบท่าแต่งตัวจะไปทำบุญที่วัดกัน ตามที่สัญญากันไว้ เขาเองก็ขึ้นมอเตอร์ไซค์ซ่อมมอเตอร์ไซค์ปุ๊บแล้วก็สตาร์ทรถครับของตัวเอง ที่ไม่ดังพึ่งเบื่อ สุดรุ่นน้อง 2 คนครับ ที่มันเจอเรื่องแปลกๆกันเนี่ย มันก็ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง แล้วมันก็บิดกุญแจครับ หลังจากนั้นมันก็สตาร์ท สตาร์ทเท่าไหร่ก็สตาร์ทไม่ติดครับ เข้าเวรของหนูก็ว่าทำไมน้องมันไม่รีบมาสักที ก็เลยหันไปดูครับ มันก็ยังคงสไตล์อยู่อย่างนั้น จนเขาหันไปมองเห็นเขาว่ากุญแจในยังไม่ปิดเลย ยาบ้าได้ยังไง มันก็ตกใจครับ แล้วมันก็พูดว่าพี่ ผมปิดแล้วนะ ผมบิดกุญแจไปแล้วผมเตรียมจะสตาร์ทแล้ว น้องมันบอกว่ามันตกใจมากครับ Huawei ว่ากุญแจเนี่ย มันบิดกลับเอง เหมือนกับไม่อยากจะให้ไป แต่สุดท้ายครับ ก็พากันสตาร์ทรถแล้วก็ขี่มาจนถึงวัด ทำบุญในเกษตรเนี่ย เรื่องเล่าต่อๆมันยังไม่หายนะครับมันยังไม่หายไปจากภูเขา น้องคนนี้ครับคนที่ตาเลือดไหลออกมาเนี่ย กูยังคงเจอเรื่องแปลกๆหลอกหลอนอยู่ แม้ว่าจะทำบุญ หรือแบบว่าทำบุญอุทิศส่วนกุศลอะไรให้กับสิ่งนั้นไปแล้วด้วย เขายังโดนผีหลอก แล้วยังโดนผีเข้าด้วยครับ หนักสุดเนี่ยขึ้นโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยว่าเขานั้นทำอะไรลงไป สุดท้ายเรื่องนี้ครับ มันไปจบที่พี่ชายของน้องคนนี้นี่แหละครับ คนที่โทรเข้ามาบอกว่าให้รีบกลับมาจัดการก่อนฟ้าจะมืดนี่แหละครับ เขาบอกว่าเขาต้องไปทำพิธีในที่ที่ บอกแล้วกลุ่มเพื่อนๆเนี่ย ไปตั้งแคมป์กัน ตอนนั้นที่ไปครับก็มีพี่ของน้องคนนี้นี่แหละครับแล้วก็พี่คนนึงของเขาก็คือพี่คนโตแล้วก็พี่คนหล่อ พี่ชายของน้องคนที่ 2 คนครับ ขับรถไปยังสถานที่ตรงนั้น ตรงที่ภูเขาเนี่ยไปกางเต็นท์กัน พอไปถึงครับ เจ้าของสถานที่ ถามมาคำแรกเลยว่า มาจากน้องคนนั้นใช่ไหม หลังจากนั้นครับ พี่สองคนนี้ก็พากันหยิบธูป สายสิญจน์ แล้วก็มุ่งตรงไปที่ศาลศาลนัดกันที ไม่รู้ว่าที่พี่เขากำลังทำพิธีกันอยู่นี้ครับมันก็มีอุปสรรคมาก อยู่ดีๆฝนก็ตก ทำพิธีดีๆเนี่ย สายสิญจน์ที่ทำอยู่ครับ มันขาด มันขาดเหมือนกับเป็นรอยไหม้ครับเหมือนมีใครเอาไฟมารน พี่สายสิญจน์มันขาด จนระหว่างที่ทำอยู่นะครับก็พยายามแก้ไขปัญหาไป พี่ชาย 2 คนนี้ก็ช่วยครับพยายามทำพิธีต่างๆช่วยเหลือน้อง ตัวสุดท้ายวิธีเสร็จครับ จะได้รู้ว่าตรงที่พวกเขาไปกางเต็นท์กัน ลึกลึกเข้าไปครับตรงจุดที่พวกเขากางกันนะเนี่ยที่ติดกับลำธาร มันเป็นจุดที่ข้ามชายแดนประเทศไทยไปแล้ว แล้วอีกครั้ง ยังทำการเหมือนกับเป็นการลบหลู่เจ้าที่เจ้าทางด้วยครับ ก็คือพวกเขานัดส่งเสียงดังกันอยู่ในป่า รวมไปถึงไม่ได้เอาเครื่องเซ่นไปถวาย กาฬสินธุ์ตั้งอยู่ในป่านี้ พี่จะทานเขาไม่พอใจมากครับ ที่ภูเขาเนี่ยไม่รู้กาละเทศะ บวกกับวันอาทิตย์ภูเขาสนุกสนานกันนี่แหละครับ มันรู้ทีหลังคือ มันคือคืนสุดท้ายที่แขกคนอื่นที่พักนี่แหละครับ เขากลับกันไปหมดแล้ว เขาไม่อยู่กันครับค่ำคืนนี้ เท่ากับว่าคืนสุดท้ายที่พวกเขากางเต็นท์ แล้วก็แหกปากโวยวายเสียงดังกันในวันเกิดนี้เนี่ย มีแค่กลุ่มเข้ากลุ่มเดียวครับ ที่กางเต็นท์กันอยู่ตรงนั้น ปีนี้ว่าเรื่องราวเรื่องนี้แหละ หลังจากที่พี่เขาไปทำพิธีให้ครับ ทุกอย่างก็ค่อยกลับมาเป็นปกติ น้องคนที่ว่าเลือดไหลออกจากตานะครับ ก็เริ่มกลับมาใช้ชีวิตได้ ไม่ได้เห็นหรือโดนผีเข้าแล้ว นี่ก็เป็นประสบการณ์สุดหล่อภูเขาเลยเหรอครับ ติดตามไปอีกนานหรือว่า เวลาเข้าป่าเข้าเขา จะไม่ส่งเสียงดัง แล้วจะพยายามไม่ไปกางเต็นท์ในที่ที่แปลกๆ รวมไปถึงที่ที่ไม่มีคนอยู่ ผัวกูเขานั้น ไม่อยากจะเจอเรื่องแปลกๆแบบนี้ นัดประชุมไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับที่เกิดขึ้นกับน้องคนนั้น พ่อไปในครั้งนี้เงียบไปกันถึงตั้ง 13 คน แต่ว่าโดนอยู่คนเดียว อีก 12 คนเนี่ยครับ ไม่ได้เจออะไรตามกลับมา อาจจะเป็นเพราะว่าช่วงนั้นเนี่ย น้องอาจจะดวงตก ร่างกายอาจจะไม่พร้อมเหลือจะอ่อนเพลียจากการเดินทาง จึงทำให้สิ่งเหล่านี้นะครับสิ่งที่มองไม่เห็น มันสามารถสื่อสาร แล้วก็ตามน้องกลับไปได้ ยังไงแล้วนะครับเรื่องราวเหล่านี้ต้องใช้วิจารณญาณ ในการรับชมรับฟังที่ดี จุดกางเต็นท์พรุ่งนี้เดี๋ยวผมขออนุญาตที่จะไม่บอกก็แล้วกันนะครับ ว่ามันอยู่ตรงไหนอะไรยังไง เอาเป็นว่าใครที่มีแพลนหรือบิ๊กซีที่จะไปกางเต็นท์กันในป่า ก็ขอให้ฟังเรื่องราวเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ครับ กับการส่งเสียงดังกันในป่า รวมไปถึงไม่ได้ไหว้เจ้าที่เจ้าทาง ยิ่งไปกินเหล้ากินเบียร์กินอะไรต่างๆในที่ของเขาแล้วเนี่ยเราไม่ได้เซ็นเขาแล้วก็ ก็มีโอกาสเจอเรื่องแบบนี้ได้ แต่จะหนักจะเบานั้น มันก็เรื่องของคุณ คุณธรรมติดตัวมา ยังไงนะครับเข้าป่าเข้าเขาเนี่ย ก็ระมัดระวังกันให้ดีๆ ก็จะไปค่ำคืนนี้ ถ้าคุณชอบเรื่องผี เรื่องราวสยองขวัญ เรา คือผู้เดียวกันครับ ใครประสบการณ์สุดหลอนอะไรที่เจอในชีวิตของคุณอีก หรือประสบการณ์ของเพื่อนคุณนะครับ ก็สามารถส่งมาได้ที่ Fanpage Facebook 1 l c ยังรออ่านเรื่องราวหล่อๆของทุกคนอยู่ ยังไงนะครับกว่าจะเข้าไปในค่ำคืนนี้ ถ้าคุณกำลังฟังอยู่ในป่า หรือมีแผนว่าจะเข้าป่าแล้วเร็วนี้แล้วก็ ขอให้คุณโชคดี ไม่มีอะไรตามกลับมา สวัสดีครับ